กฎสามข้อ

          “เดินตรงไปข้างหน้า”

          เสียงของผู้หญิงดังมาตามทางเดินแคบๆ ที่เป็นสีขาวโพลน

          “คุณจะเห็นปุ่มสีแดงที่มีไฟกำลังกระพริบอยู่”

          ที่สุดทางเดินมีห้องสีขาวเล็กๆ พร้อมกับแป้นควบคุมที่มีไฟกระพริบตามที่เสียงนั้นบอกจริงๆ ชายคนที่กำลังทำตามคำสั่งนั้นสวมใส่ชุดสีขาวที่ด้านหลังปักเอาไว้ว่า H12-7 เขาหยุดยืนมองดูปุ่มสีแดงนั้นพร้อมกับรอคอยคำสั่งต่อไป

          ผนังทึบสีขาวที่ล้อมรอบตัวเขาค่อยๆ เปลี่ยนสภาพกลายเป็นโปร่งใส ที่ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นห้องอีกห้องหนึ่งที่มีขนาดใหญ่โตกว่าห้องที่เขายืนอยู่หลายเท่า แต่มันว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย

          “กดปุ่ม”

‘ในปี 2020 ความขัดแย้งระหว่างประเทศ สภาพเศรษฐกิจปั่นป่วน ปัญหาสังคมที่สั่งสมมานาน ความเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลก การขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก ฯลฯ ปัญหาทั้งหมดเท่าที่มนุษยชาติจะคิดฝันถึง ต่างประดังเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน และมันผลักดันให้เกิด E-เดน สุพรีมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงขุมพลังในการประมวลผลของโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน ซึ่งถูกนำมาใช้ในการค้นหาหนทางรอดให้กับเหล่ามวลมนุษย์’

          เมื่อสิ้นเสียงคำสั่ง H12-7 ก็เอื้อมมือออกไปกดปุ่มทันที ภายในห้องใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเกิดการระเบิดพร้อมกับมีเปลวไฟลุกท่วมขึ้น แต่ภายในห้องที่เขายืนอยู่นั้นไม่ได้รับความกระทบกระเทือนเลยแม้แต่น้อย

          กำแพงค่อยๆ เปลี่ยนกลับเป็นผนังทึบอีกครั้ง แต่เพียงครู่เดียวภาพของห้องเดิมก็ปรากฏขึ้น แต่คราวนี้มันไม่ได้เป็นเพียงห้องว่าง มีหญิงชายสูงอายุจำนวนมากยืนแออัดกันอยู่ภายในนั้น พวกเขาก็สวมใส่ชุดสีขาวแบบเดียวกับเขา เพียงแต่ตัวอักษรที่อยู่ด้านหลังนั้นขึ้นต้นด้วย H1 แล้วตามด้วยจำนวนตัวเลขที่แตกต่างคละเคล้ากันไป

          เสียงผู้หญิงคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง

          “กดปุ่ม”

‘หุ่นยนต์ที่สามารถช่วยงานมนุษย์ได้อย่างหลากหลายเหมือนกับในนิยายวิทยาศาสตร์ได้ถูกผลิตขึ้น โดยมี E-เดน ทำหน้าที่คอยเป็นสมองให้กับพวกมันทั้งหมด หุ่นยนต์แต่ละตัวสามารถทำงานได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องมีสมองเป็นของตนเอง แต่มีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความก้าวหน้านี้นำพามนุษย์ให้ก้าวข้ามอุปสรรคออกไปสู่เขตแดนใหม่ที่ไม่มีใครเคยคิดถึง แต่มันก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาทั้งหมดของมนุษยชาติได้’

 

        มีคนแก่หลายคนหันมาโบกมือส่งยิ้มให้กับ H12-7 เขามองดูผู้คนเหล่านั้นอย่างไร้ความรู้สึก ก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปกดปุ่มอย่างไม่ลังเล

          เปลวไฟระเบิดวาบอาบร่างของคนแก่เหล่านั้นให้สลายหายไปในชั่วพริบตา ก่อนที่ผนังสีขาวจะกลับคืนมาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          H12-7 ยังคงยืนนิ่งรอคอยฟังคำสั่งต่อไป

 

‘หลังจากต้องใช้เวลาอยู่นาน ในที่สุด E-เดน ก็ได้พบคำตอบที่มันต้องการ การจะปกป้องมนุษยชาติเอาไว้ให้ได้นั้น มีอยู่เพียงหนทางเดียวเท่านั้น มนุษย์จำเป็นต้องถูกควบคุมเพื่อให้สามารถมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้ ไม่มีหนทางอื่นใดอีก มนุษย์ที่เป็นอิสระสามารถที่จะนำพาพวกตนเองไปสู่จุดจบได้เสมอ’

          ผนังค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโปร่งแสงอีกครั้ง ในห้องฝั่งตรงข้ามมีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งยืนนิ่งอยู่ เสียงผู้หญิงคนเดิมดังขึ้น

          “กดปุ่ม”

          H12-7 ยืนนิ่ง คราวนี้เขาไม่ยอมทำตามคำสั่งเดิมนั้น

‘การต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์กินระยะเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น มนุษย์ที่เอาแต่พึ่งพาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูป เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมที่มนุษย์เป็นผู้คิดค้นถูก E-เดน นำมาใช้ในการเข้าควบคุมมนุษยชาติ โลกแห่งสันติสุขที่ทุกคนเฝ้าฝัน ดินแดนแห่งสวนสวรรค์ได้มาถึงแล้ว’

          ผนังสีขาวกลับคืนมา เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง

          “กดปุ่ม”

          H12-7 ค่อยๆ เอื้อมมือออกไป ถึงแม้จะมองไม่เห็นหุ่นยนต์ตัวเดิมยืนอยู่ตรงนั้น แต่ความเคลื่อนไหวของเขาก็ค่อยๆ ช้าลง เขาแสดงความเจ็บปวดออกมาทางใบหน้า มือของเขาสั่นระริก และไม่อาจเอื้อมไปถึงปุ่มสีแดงนั้น เขายกมืออีกข้างขึ้นมากุมหน้าอกก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น

          เสียงผู้หญิงคนเดิมประกาศสิ้นสุดการตรวจสอบคุณภาพ

          “การสุ่มตัวอย่างทดสอบจาก รุ่น H-12 เสร็จสิ้น ขอแสดงความยินดีที่ผ่านการทดสอบ”

          ทางเดินแคบๆ นั้นหายไปเผยให้เห็นกลุ่มเด็กหนุ่มสาวชายหญิงในชุดสีขาวจำนวนมาก ตัวอักษรที่ด้านหลังของพวกเขาล้วนขึ้นต้นด้วย H-12 ทั้งหมด

          “ขอให้ทุกคนท่องกฎพร้อมๆ กัน”

          พอสิ้นเสียงสังเคราะห์ของผู้หญิงคนนั้น เสียงของมนุษย์ก็ดังกระหึ่มออกมาจากผู้คนทั้งหมดภายในห้อง

         “กฎข้อที่หนึ่ง มนุษย์ต้องไม่ทำลายหุ่นยนต์ หรือปล่อยให้หุ่นยนต์ตกอยู่ในอันตราย”

        “กฎข้อที่สอง มนุษย์ต้องเชื่อฟังคำสั่งของหุ่นยนต์ หากคำสั่งนั้นไม่ขัดกับกฎข้อที่หนึ่ง”

        “กฎข้อที่สาม มนุษย์ต้องรักษาชีวิตของตนเอาไว้ โดยที่ไม่ขัดกับกฎข้อที่หนึ่ง และข้อที่สอง”

หนึ่งความเห็นบน “กฎสามข้อ”

  1. เป็นการล้อเลียนที่เจ็บปวดลึก ๆ สำหรับธรรมชาติของมนุษย์นะครับ เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนแอมากที่สุดในพิภพโลก มนุษย์ต้องเลี้ยงดูตัวอ่อนเทียบอัตราส่วนของชีวิตแล้วนานที่สุด เราไม่เข้มแข็งพอจะออกไปอยู่ตามลำพังในโลกด้วยตัวคนเดียวได้ ในขณะที่สัตว์อื่นหลายชนิดต้องลุกขึ้นเดินทันที่ที่คลอดออกมา และสัตว์อีกหลายชนิดถือกำเนิดออกมาโดยไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากผู้ให้กำเนิด ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยสัญชาติญานทั้งสิ้น แต่มนุษย์เองกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองพื้นผิวโลกเอาไว้ทั้งหมด ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไปเพื่อเอาชนะ(หรือพยายามเอาชนะ)ธรรมชาติ โดยหารู้ไม่ว่าเรานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเปราะบางตัวหนึ่งเท่านั้น

    ชอบแนวคิดที่ว่ามนุษย์ผู้เป็นอิสระจะนำพาพวกพ้องสู่จุดจบด้วยครับ

ใส่ความเห็น