บันทึกผจญภัยผลึกสีชาดตอนที่ 4 สู่อวกาศครั้งแรก (แก้ไขแล้ว)

ยานอวกาศจอดเทียบท่าเรียงรายกันอย่างนุ่มนวลเลื่อนเปิดประตูท้ายลำ โปรยบันไดยี่สิบขั้นลงมาต้อนรับ เด็กบริเวณนั้นทยอยตั้งแถวเดินเรียงรายขึ้นยานอย่างเป็นระเบียบ รวมถึงราเอล ลอร่า กับ เด็กหนุ่มผมดำหางม้าด้วย

บนตัวยานทั้งสามแลเห็นบรรยากาศทางเดินภายใน คล้ายอุโมงค์สี่เหลี่ยมแต่ผนังนั้นโค้งรีหน่อย  พื้นผนังล้วนบุด้วยวัสดุคล้ายพลาสติคสีขาวงาช้าง ปรากฏลำโพงและตราสัญลักษณ์ของอาณาจักรสลักตามผนังบางจุด หลอดไฟบนฝ้าให้ความสว่าง  ที่นั่งแบ่งเป็นแถวกระดานนับไม่ถ้วน  แถวนึงประมาณ สิบที่นั่งเว้นที่ตรงกลางไว้สำหรับเดิน

เด็กหนุ่มผมดำหมุนตัวกวาดสายตาบรรยากาศรอบข้างอย่างตื่นตาตื่นใจ

“  ว้าว !!!  นี่หรอยานรับส่งไปโรงเรียน ดูดีชะมัด ”  ราเอลเห็นเด็กหนุ่มผมดำลัลล้า กระโดดเหยงไปมาเหมือนเด็กกลับรู้สึกทึ่งและประหลาดใจ

ระหว่างเด็กหนุ่มผมดำกำลังกระดี้กระด้า ราเอลแตะไหล่เรียกความสนใจเขาแล้วเอ่ยปากถาม

“  ว่าแต่แกชื่ออะไรนะ เมื่อกี้เสียงยานมันกลบ  ”  พอราเอลกล่าวจบ ลอร่ามองเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากทราบชื่อเขาเช่นกัน

ระหว่างนั้นเองพวกเขาก้าวเท้าไปข้างหน้าตามจังหวะแถวด้วยจนแถวหยุดเด็กหนุ่มผมดำเหลียวหลังมองทั้งสองแล้วตอบคำถามที่คาใจพวกเขา

“  เราชื่อคิม เรย์ยินดีที่ได้รู้จัก ”  ระหว่างแนะนำตัวจบก็ยื่นมือขวามาให้ราเอลจับ

ราเอลหน้าตาเฉยยื่นมือไปจับตามมารยาท

“  ราเอล บลอร์ดมอร์ ” พร้อมย้ำชื่อของตนอีกรอบ

ระหว่าง ทีจับมือผูกไมตรีนั้นเองทั้งสองไม่ได้สังเกตุว่าแถวได้ขยับไปข้างหน้าแล้ว ลอร่าจึงสะกิดไหล่เตือนราเอล เนื่องจากเกรงใจคนข้างหลัง

“ เฮ้ !! ทั้งสองคน เดี๋ยวถึงที่นั่งแล้วค่อยคุยกันต่อได้มั๊ยจ๊ะ ”

ราเอลพยักหน้าตอบรับ เดินตามแถวเงียบๆตามคำลอร่า เดินไปสักพักทั้ง สามได้นั่งลงยังเบาะหมายเลข 501  – 503 โดยที่ราเอลนั่งตรงกลาง   ที่นั่งใกล้เคียงปรากฏเพียงเด็กวัยใกล้เคียงกับพวกเขาทั้งสาม ดูท่าจะมีการแบ่งโซนที่นั่งตามอายุด้วย ขณะนั่งพาดขาซ้ายไว้บนเข่าขวาบิงเบาะที่นั่งอย่างเพลินอารมณ์ หุ่นโดรนลูกบอลเหล็กสีเทาดวงตาจักรกลข้างหน้าดวงนึงลอยตุ๊บป๋องเข้ามาค้ำหัว

“ กรุณาแสดงบัตรประชาชนด้วยครับ ”  โดรนลูกบอลตัวนั้นกล่าวเสียงเส้นเสียงไร้ชีวิตชีวาออกมา

ได้ยินเช่นนั้นทั้งสามได้ควักบัตรประชาชนที่ได้แต่กำเนิดมาจ่อตาของมันปล่อยมัน ยิงเลเซอร์สีแดงแสกนบัตร จนครบสามคน มันได้ลอยไปหาคนอื่นต่อไป บรรยากาศกลับมาเงียบดังเดิม กระทั่งเรย์ชวนราเอลเปิดประเด็นคุย เขายิ้มแย้ม หันหน้ามองราเอลแล้วถามไถ่ทำความรู้จักเบื้องต้น

เด็กหนุ่มตอบไปตามตรงว่าเขากับลอร่านั้นอาศัยที่ค่ายทหารกลาง ตัวเองเป็นลูกนายทหาร ส่วนลอร่าเป็นลูกของวิศวกรใหญ่ประจำค่าย พอถึงตาถามเด็กหนุ่มผมดำก็ทราบว่าเขามีนามว่า      คิม เรย์ พึ่งย้ายเข้ามาอยู่เมืองนี้ประมาณเดือนนึงแล้ว คุยไปสักพักเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ดังขึ้นมา ทั่วทั้งยานสั่นสะเทือน เรย์มองเพดานที่สั่นไหว เรย์แสดงท่าทางตื่นเต้นกับการออกยานครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเด็กหนุ่มไม่รู้สึกรู้สาอะไรมาก

เรย์ทำหน้าทะเล้น ยิ้มมุมปากเด็กหนุ่มพลางเอามือมาพาดไหล่

“ เห นายเนี่ยน้า ตายด้านจังเลย ใครๆเขาก็ตื่นเต้นทั้งนั้นแหละ ”

ราเอลปัดมือเรย์ออก แล้วพิงหัวลงกับเบาะ

“เรื่องของฉันน่า !”

ระหว่างนั้นเองเสียงโอเปเรเตอร์ป่าวประกาศออกลำโพงทุกตัว

“ ขณะนี้ได้เวลายานออกแล้ว กรุณานั่งประจำที่ รัดเข็มขัด หากมีใครมาหลังจากนี้จะไม่อนุญาติให้ขึ้นยานแล้วและขอย้ำว่ากรุณาทำตามคำ สั่งเจ้าหน้าที่ทุกประการ ”

กำแพงยานสั่นไหวไปมา ตามด้วยเสียงฟันเฟือง ครูดไถ เตาปฏิกรอาร์คจุดเชื้อเพลิงสตาร์ทเครื่องยนต์ ประมาณ สิบวินาทีก็ดูเหมือนตัวยานจะลอยขึ้นจากพื้น

“   ทุกคนหยิบหมวกกันน็อคใต้ที่นั่งมาสวมใส่กันหูอื้อซะ ด้วยความหวังดี  ” ออเปอเร่อเตอร์ประกาศต่อ

สิ้นคำประกาศทุกคนต่างคลำหาหมวกกันน็อคจากใต้ที่นั่งตามคำประกาศ จะเจอช้าเร็วก็แล้วแต่ความชำนาญ และไหวพริบของแต่ละคน

ไม่ทันขาดคำออเปเรอเตร์ราเอลกลับควานหาเจอแล้วสวมใส่มันสำเร็จเป็นคนแรกตามด้วยเรย์  พอสวมมันแวบแรกรู้สึกมันใหญ่เกินไปหน่อย ทว่าเพียงไม่กี่วิหมวกทำการปรับขนาดให้กระชับกับขนาดหัวโดยอัตโนมัติ  ทว่าพอลอร่าคลำเจอแล้วกำลังหยิบมันขึ้นมาสวมกลับทำหมวกหลุดจากมือเกลือกกลิ้งมาใต้ที่นั่งราเอล

ราเอลก้มลงไปหยิบให้ สวมลงหัวให้ลอร่าก่อนจะเขกกระโหลกเธอเบาๆ

“ เธอนี่น้า  ”

“ อย่าป๋ำเป๋อให้มากนักสิ มันน่ารัก หึหึ  ” พร้อมทำหน้ายิ้มกวน หยอกเธอเล่นด้วยความมันเขี้ยว

“ จะว่า หรือ ชมฉันแน่เนี่ย ราเอล ปกติไม่เคยชมเลย ”   ลอร่าก้มหน้าก้มตาพูด ไม่สบตาราเอล

“ คิดเองสิ  ” ราเอลแลบลิ้นใส่

ระหว่างนั้นเอง เสียงเคี้ยวอะไรบางอย่างระยะเผาขน ดังกรอกหูราเอล ต้นเสียงมาจากทางที่เรย์นั่ง ราเอลจึงหันไปมองด้วยความสงสัย

ภาพเรย์กำลังเคี้ยวหมากฝรั่งเต็มตา เคี้ยวสักพักเรย์ก็พ่นออกมาเป็นรูปนกพิราบโบยบินออกจากปาก ประมาณ 3 วิ แล้วบินกลับเข้าปากไปแต่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจเท่าไรนัก  สมัยนั้นหมากฝรั่งมีลูกเล่นพ่นออกมาเป็นรูปร่างตามสัญลักษณ์กำกับข้างห่อแทบทุกห่อแล้ว พลันเห็นเรย์เคี้ยวอย่างมันปาก เกิดเปรี้ยวปากขอทานบ้าง เรย์แอบยิ้มอย่างชั่วร้ายระหว่างควักหมากฝรั่งให้ ราเอลแกะมันเข้าปากโดยไม่ทันสังเกตว่ามีสัญลักษณ์อะไรข้างซองกำกับไว้

“  ผมเป็นเกย์คร้าบบบบบบบ  ”  ข้อความเบ้งใหญ่ลอยออกจากปาก ตระหง่านเด่นชัดเหนือศรีษะ ประจาน เด่นชัดประมาณ 5 วิแล้วกลับเข้าปากไปเช่นเดิม

หมากฝรั่งจบ ทว่าคนรอบข้างไม่จบ

สายตาจับจ้องจากทุกสารทิศมุ่งเข้ามา จากสถานะผู้บริสุทธิ์ผันเป็นจำเลยสังคมในชั่วพริบตา ราเอลได้แต่เหงื่อตก อึ้งจนพูดไม่ออก ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมไป

“คิก ๆ ๆ ”

“โห ค้นพบตัวเองเร็วว่ะ ”

“พ่อแม่คงเสียใจแย่”

“ ยังเด็กอยู่  หน้าตาก็ไม่เลว ไม่น่าเลยจริงๆ”

เสียงหัวเราะปนติฉินนินทานับไม่ถ้วนของคนรอบข้างแว่วเข้าหู ทุกคำล้วนทิ่มแทงลึกลงไปในใจเด็กหนุ่ม หันไปมองเรย์ด้วยหางตา กัดฟันพูดเบาในลำคอแต่แฝงความคับแค้นใจอันหาที่สุดมิได้  ลอร่าเองก็รับมุขตามคนอื่น แสร้งร้องไห้สะอึกสะอึ้น แต่น้ำเสียงของเธอนั้นดูหยอกเล่น

“ คบมาตั้ง 13 ปีไม่น่าเลยราเอล ซิก ๆ ”

ราเอลได้ยินเช่นนั้นครุ่นคิดสักพักก่อนจะ หัวเราะในคอ อมยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมาว่าแล้ว ก็ยื่นหน้าเข้าไปหาลอร่าทันที

“ จะทำอะไรน่ะ  ” ลอร่าเห็นแบบนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ หันมาสบตาอย่างเลิ่กๆลั่กๆ

“ ก็จะพิสูจน์ให้เธอเห็นไงว่าฉันไม่ใช่เกย์  ”  ราเอลยื่นหน้าเข้าไปใกล้แก้มลอร่าเข้าไปอีก

ลอร่าหน้าแดง ตวาดใส่เบา

“ จะบ้าหรอราเอล เอาหน้าไปไกลๆเลยนะ  ”

ราเอลย้อนกลับไปเล่นต่อ

“ เป็นไรไปสมัยเด็กๆเรายังเคยอาบน้ำด้วยกันเลยนินา ”

ไม่ทันสิ้นคำฝ่ามือขาวบางเฉียบของลอร่า ฟาดเข้าแก้มราเอลสุดแรง

“ อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ !! ”

คนรอบข้างต่างหันมามองเพราะสะดุ้งกับเสียงหล่อนจนโอเปเรเตอร์ต้องกล่าวตักเตือน ลอร่ารู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดิน ขอโทษเสียงเบาอ่อยอิ่ง นั่งก้มหน้าก้มตาไป   เด็กหนุ่มเห็นลอร่าตกในสภาพนั้นส่ายหน้าเซ็ง ไม่กล้าเล่นมุกล้อเล่นต่อกลับมาบ่นใส่เรย์

“ เพราะแกแท้ๆเลย  ”

เรย์เกาหัวทำหน้าสำนึกผิดแค่แปปเดียวก็หัวเราะกลบเกลื่อนทันที

“ โทษ ทีไม่นึกว่า เธอจะพลอยโดนรากแหด้วยแต่ช่างเหอะมันจบไปแล้วนิ ฮะ ฮะ  ”

อ้าวไอ้นี่สติมันยังดีป่ะวะ ราเอลรู้สึกไม่สบอารมณ์นิดนึงภายใต้ใบหน้าเงียบขรึม ระหว่างที่คิดอยู่นั่นเอง

วี้ดดด !!!!

เสียงตัวยานปะทะกับอากาศรอบข้าง ลอย ทะลุเข้าหมวกกั้นหูเข้าหูทุกคนเบา  ตัวยานสั่นเป็นระยะ  สั่นไหวมากขึ้นเมื่อตัวยานคงลอยเหนือพื้นสูงขึ้น หากมองตัวเมืองก็คงเห็นเป็นอะไรเล็กจิ๋วเท่านั้น ตึกสูงเฉียดฟ้าก็คงขนาดเท่าต้นไม้สูงต้นนึงเท่านั้น

คนอื่นที่วัยใกล้เคียงกับราเอลต่างมีอาการล่อกแล่ก มือสั่นจากประสบการณ์แปลกใหม่ น่าหวาดเสียวเป็นครั้งแรก ผิดกับราเอล เอาหัวพิงที่นั่งอย่างสบายใจ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว  แต่พลันเห็นลอร่าหลับตาปี๋ มือสั่น หน้าซีด ด้วยความหวาดกลัว  เด็กหนุ่มอดยื่นมือไปจับมือที่ชุ่มเหงื่อของเธอ ปลอบโยนเธอไม่ได้

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน ”

ลอร่าพยักหน้าหงก ไม่พูดไม่จา กำมือของราเอลแน่น

แต่การพูดปลอบโยนโดยตรง ไม่ใช่วิถีของเด็กหนุ่ม เลยหยอกเล่นออกไป

“ไม่ต้องกังวลนะยัยเปิ่นผมดำ เดี๋ยวฉี่ราดละยุ่งเลย ”

“….. ”  ลอร่าไม่พูดไม่จาอะไร กำมือเขาแน่นกว่าเดิมอีก

กระทั่ง ตัวยานบินพ้นจากชั้นบรรยากาศ ทุกอย่างก็กลับมาปกติ คนรอบข้างบางคนก็มีอาการไม่ต่างลอร่าเท่าไรนัก แต่ลอร่ายังกำมือราเอลเพราะความรู้สึกหวาดเสียวยังค้างคาในใจอยู่

เด็กหนุ่มขึ้นเสียงกวนกับเธอ แต่แกะมือเธอออกอย่างทะนุถนอม

“ ลอร่ามันจบแล้วนะ ปล่อยมือได้แล้วยัยเปิ่น  ”

ลอร่าพยักหน้า สีหน้าดีขึ้นตามลำดับ ยกมือข้างที่โดนจับขึ้นมามองแอบอมยิ้มนิด

“อะ อื้อ  ”

พอจบเรื่องลอร่า เด็กหนุ่มก็หันมาเรียกเรย์ กลับโดนเขาแซวเรื่องเมื่อครู่เล่นเอาเขาเสียอารมณ์ตวาดกลับไปว่า แค่ทำในฐานะเพื่อนเท่านั้นจนลืมเรื่องที่ตนจะชวนเขาคุยไปหมดสิ้น  ครุ่นคิดไปมาเท่าไรก็นึกไม่ออกเสียที จนขี้เกียจนึกให้ปวดสมอง ตัดสินใจฟุบกับเบาะไป

ถ้าอยากมองก็กดปุ่มบริเวณขมับด้านขวาจะมีเลนส์เลื่อนออกมา  ถ้าอยากมองแสงอาทิตย์ก็กรุณามองผ่านเลนส์นั่น ”

สิ้นเสียงประกาศ พลาสติกสีขาวที่ปกปิดหน้าอยู่เลื่อนเก็บลงทีละนิด กระทั่งเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน พวกเขาถูกห้อมล้อมด้วยดวงดาราเล็กน้อยส่องแส่งระยิบระยับ

เศษหินก้อนเล็กก้อนน้อย ปะปนนวัตกรรมของมนุษย์มากมายล่องลอยในอวกาศ ท่ามกลางความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด
บัดนี้ดวงดาวที่พวกเขาอาศัยอยู่ปรากฏตรงหน้า วัตถุทรงกลมสีฟ้าครามสลับเขียวขนาดมหึมา จากยานลำมหึมาที่พวกเขาโดยสาร กลับดูยิ่งกว่ามดตัวนึงเสียอีกเมื่อเทียบกับขนาดของดาว

นี่อาจเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับมนุษย์ยุคศตวรรษที่ 20 แต่สำหรับ ยุคนี้ทิวทัศน์อวกาศกลับเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครหน้าไหนก็สามารถมารับชมด้วย ตาได้ แม้แต่เกษตรกรที่ยากจนที่สุด

“ ว้าว สวยจัง ” ลอร่าซุบซิบกับเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ ชี้ดาวดวงนั่นดวงนู้น วี้ดว้ายกันเองตามประสาเด็กผู้หญิงทั่วไป

เรย์สะกิดไหล่ราเอลรัว จนเขาทนไม่ไหวหันไปเขม็งใส่เรย์

“ย้าฮู้ นายเคยเห็นอะไรแบบนี้เปล่าเนี่ย นั่นบ้านของเรานะนั่น ” เรย์แสดงอาการตื่นเต้น มือขวาเขย่าไหล่ราเอล มือซ้ายพลางชี้ไปที่ดาวเคราะห์ตะโกนออกมาเสียงดัง

เด็กหนุ่มพูดลอยขึ้นมาไม่มองหน้าเรย์ ตอนนี้เขาเพลียเต็มทนแล้วเพราะตื่นเช้า นึกอยากงีบสักหน่อย

“ถ้า แกยังไม่หยุดแพล่มอีก แกจะได้เห็นดาวโนจรัสบนหัวแกแน่ ”

หลังจากหมดโปรโมชั่นเห่อกับวิวอวกาศบรรยากาศกลับมาเงียบลงเหมือนเดิม  ตัวยานล่องลอยท่ามกลางความเคว้งคว้าง มืดมิดอันไร้ขีดจำกัดของอวกาศ ถึงจะมีดาวเทียม และยานอวกาศลำอื่นบินสวนบ้าง แต่มิอาจทดแทนบรรยากาศว่างเปล่าอันงดงามนี้ได้ ไม่รู้ว่านานเท่าไร พอเรย์กับลอร่า หมดเรื่องคุยกับคนรอบข้าง ความง่วงหงาวหาวนอนมาเยือนผล็อยหลับตามราเอลไป

เวลาดำเนินไปพักนึง..

“อ๊อด ! ”  เสียงสัญญาณแหลมจนแสบแก้วหู ปลุกทุกคนจนตาสว่าง

บัดนี้วิวหน้าต่างปรากฏ สิ่งปลูกสร้างโครงสร้างทันสมัย เป็นอาคารรูปร่างทรงสี่เหลี่ยม ซ้อนกันหลายชั้น สลับกับอาคารรูปร่างทรงกระบอกตามมุม ระหว่างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ถูกเชื่อมด้วยเหล็ก ทรงกระบอกห้าเหลี่ยมมากมายซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งทางเดินและระบบขนส่งพลังงาน ภายในอาคารทั้งหมด ปรากฏหอคอยยื่นออกมาใบบางพื้นที่

ตัว ยานลงจอดในพื้นที่รันเวย์ที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้อย่างนิ่มนวล แลเห็นบรรดาช่างใส่ชุดอวกาศประจำตัวทำการซ่อมแซมตัวอาคาร บ้างก็เปลี่ยนเครื่องจักรอวกาศที่ฝังอยู่ในกำแพงเหล็กกล้าที่ใกล้หมดอายุการ ใช้งานมาเป็นของใหม่ บ้างเชื่อมกำแพงเหล็กให้สนิทเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อรักษาโครงสร้างของอาคารจากอวกาศ เช่น แรงกดดัน อุณหภูมิที่ไม่คงที่ รังสีนานาชนิด

โรงเรียนแห่งนี้มีพื้นที่พอกับเกาะใหญ่จนสามารถประเทศเล็กได้เลย  ห้อมล้อมด้วยป้อมปราการมากมายคอยอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รับเด็กระดับมัธยมต้นจากดาวเคราะห์สามดวง โปรติอุส เซียร์ฉะ ธรา และ ป้องกันอย่าหละหลวมอาจถูกเป็นเป้าโจมตีแก่พวกผู้ไม่หวังดี

หลังจากยานลดความเร็ว วิ่งเทียบกับรันเวย์ไปจอดบนลานกว้างแล้ว

“ เอาล่ะเด็กๆ ถึง รร. อันแสนสุขแล้ว หลังจากประตูยานเปิด ขอให้ลุกขึ้นทีละแถวจากข้างหลัง ส่วนเด็กใหม่ขอให้นั่งในยานก่อน ” ออเปอเรอเตอร์ประกาศแจ้งเด็กนักเรียนทุกคนบนยาน

พวกเด็กเก่าหยิบข้าวของตน ทยอยเรียงแถวเดินออกจากยานไป

ส่วนพวกมาใหม่นั่งรอที่เดิมตามคำสั่ง บ้างกอดกระเป๋า บ้างตรวจเช็คสัมภาระของตน บ้างก็เล่นเครื่องมือสื่อสารของตน บ้างคุย กิ๊กกั๊กกับเหล่าเพื่อนใหม่ ลอร่าล้วงกระเป๋าเป้ของตนหาอะไรบางอย่างอยู่ เรย์มองบรรยากาศรอบๆอย่างตื่นเต้น ส่วนราเอลนั่งเฉยไม่ใส่ใจรอบข้างมากนัก

สักพักชายวัยกลางคนร่างเล็ก ผิวเหลืองอ่อน ตาตี่ ผมค่อนข้างบาง  หงอกขาวปนดำ สวมแว่นสายตาท่าทางใจดีเข้ามาทางประตูทางเข้า พร้อมกับกระเป๋า 1 ใบ

“ สวัสดี เด็กๆที่น่ารัก จาก ดาวเคราะห์ลำดับที่ 9   ธรา ครูขอแนะนำตัว ครูชื่อ เฟ่ย หลง มาจากดวงดาวลำดับที่ 8  Saoirse (เซีย – ฉะ)  เป็น หนึ่งในผู้ช่วยอำนวยการสถานศึกษาแห่งนี้ ในฐานะที่พวกเธอเป็นนักเรียนเข้ามาใหม่ ต้องเข้าพิธีปฐมนิเทศ รับรู้กฏกติกาพื้นฐาน และ หน้าที่ของตนเสียก่อน ขอให้ทุกคนไปที่ห้องประชุม A ภายใน15 นาที  ครูจะปล่อยให้พวกเธอไปทำกิจส่วนตัว ”

เด็กคนนึงในกลุ่มยกมือถาม อาจารย์เฟ่ยอนุญาติเขากล่าว

“   แล้วพวกเราจะไปถูกได้ยังไงละครับ ที่นี่ออกจะกว้าง แถมพวกเรามาที่นี่เป็นครั้งแรกด้วย”

“ นั่นไม่ใช่ปัญหาที่พวกเธอต้องกังวล ” ครูเฟ่ยเปิดกระเป๋าถือ 1 ใบ ภายในบรรจุกำไลข้อมือพลาสติกครบตามจำนวนเด็กทุกคน

“ ขอให้พวกเธอสวมมันซะ กำไลนี่จะมีแผนที่บอกเวลาที่เธอหลง บอกเวลาที่ตรงเป๊ะ และจะบอกว่าที่ไหนเป็นเขตหวงห้ามของพวกเธอและที่สำคัญที่สุด

มันช่วยบอกว่าตอนนี้พวกเธอยู่ที่ไหนใน รร. แห่งนี้ ดังนั้นอย่าคิดว่าจะหาที่แอบซ่อนตัวเพื่อโดดเรียนได้

ตราบใดที่พวกเธอไม่ออกจากเขต รร. พวกเธอจะไม่มีวันถอดมันได้เด็ดขาด เอาละ หวังว่า 15 นาทีทุกคนคงไปรวมกันที่ห้องประชุมนะ ”

“ครับ / ค่า” เด็กๆทุกคนรวมทั้งราเอลขานรับคำสั่ง  หยิบ นาฬิกาข้อมือ พร้อมแยกย้ายออกไป บ้างก็เข้าห้องน้ำ บ้างก็เดินสำรวจพื้นที่ บ้างบึ่งไปห้องประชุมโดยทันที

หลังจากสิ้นเสียงตอบรับครูเฟ่ยเดินจากไป ทุกคนก็ลุกขึ้นทยอยเดินออกจากยานไป

ระหว่างที่ราเอลกำลังลุก ลอร่าแตะไหล่เขาและบอกว่าเธอต้องการไปห้องน้ำขอให้เขาไปเป็นเพื่อนหน่อย เด็กหนุ่มไม่เหตุผลอะไรจะปฏิเสธเพื่อนตั้งแต่วัยเด็กและสถานที่นี้คนค่อนข้างเยอะ พวกเขาควรจะเกาะกลุ่มกันหลงดีกว่าเลยตอบตกลงทันที ขณะที่กำลังจะชวนเรย์ไปด้วยกัน ปรากฏว่าเรย์ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วแต่ทั้งสองไม่ติดใจอะไร เดาว่าเขาคงไปตีซี้กับคนอื่น หรือ เดินเล่นไปมา

พอสำรวจของตนว่าอยู่ครบทุกชิ้น ทั้งคู่กดกำไลพลาสสติกที่ได้มาเมื่อครู่ เปิดดูแผนที่พอระบุตำแหน่งห้องน้ำได้ทั้งคู่ได้มุ่งไปทันที

หน้าห้องน้ำหญิง

ระหว่างที่รอลอร่าทำธุระส่วนตัวนั้นเอง

เฮ้อ ผู้หญิงนี่เข้าห้องน้ำนานจังเลยแฮะ เป็นผู้ชาย 10 วิก็เสร็จละ ราเอลเกาหัวยืนพิงผนังด้วยความหน่าย จนต้องเดินสำรวจแถวนั้นฆ่าเวลาเล่น

ตามทางเดินเป็นแผ่นเหล็กแข็งแรงปูต่อกันเหมือนกระเบื้อง มีเสาค้ำเป็นระยะ ตามเพดานปรากฏหลอดไฟส่องสว่างและสายระโยงมากมาย  หน้าต่างโปรงใส เห็นทิวทัศน์ภายนอก  อากาศภายใน เย็นสบายและสดชื่น จากระบบปรับอากาศ ส่วนแรงโน้มถ่วงภายในถูกปรับก็ปกติเหมือนกับโลกง่ายต่อการเคลื่อนไหว

คงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากแรงโน้มถ่วงน้อย จนทุกสิ่งลอยตุ๊บป๋องกลางอากาศ แม้แต่ของเหลวก็คงเป็นเหมือนมวลเยลลี่ที่ลอยไปมารวมถึงมนุษย์ที่ต้องแหวก ว่ายในสภาพไร้น้ำหนัก ไม่สามารถเดินเหินได้ตามปกติ

มองรอบตัว ผู้คนรอบตัวต่างรีบเร่งด้วยกิจธุระหน้าที่ของตน ผู้สูงอายุบางคนนั่งรถเข็นที่มีสายเชื่อมเข้าข้อมือวิ่งไปในทิศทางที่เขา ปรารถนา หุ่นยนต์รูปร่างคล้ายแมงกระพุนตัวหยุ่น ส่วนสูงประมาณอกราเอลเคลื่อนไหวด้วยการ ลอยไปมาบนพื้น หนวดของมันเป็นเครื่องมือทำความสะอาด เช็ดถูพื้นรอบบริเวณ บางตัวใช้ความหยุ่นของมันมุดเข้าช่องอากาศเพื่อทำความสะอาด

ระหว่างที่เดินเล่นแถวนั้น ลอร่ายืนหน้าห้องน้ำตะโกนเรียกพร้อมโบกมือให้หลังจากทำธุระเสร็จ เด็กหนุ่มเดินแหวกกลุ่มคนเข้าไปหาลอร่าทันทีที่ได้ยิน

“ราเอล ! เฮ้ !! ”

“งั้นเราไปห้องประชุม A กันเลยมั๊ย ” พอถึงตัวเธอราเอลถามทันที

“อื้อ ” ลอร่ายิ้ม พยักหน้าตอบรับ

“ ทางสถาบันเราหวังว่า พวกเธอจะค้นพบสายอาชีพที่ตัวเธอปรารถนาและเป็นบุคลากรที่ดีของราชอาณาจักร สืบไป ต่อจากนี้ทางโรงเรียนจะปล่อยพวกเธอไปรับประทานอาหารกลางวัน เตรียมตัวเรียนคาบแรก ขอให้ทุกคนกรุณาเดินออกไปอย่างเป็นระเบียบด้วย ”

“แปะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ”   เสียงปรบมือดังก้องทั้งหอประชุมหลังจากผู้อำนวยการที่มองเห็นหน้าไม่ชัดเจน นัก กล่าวปิดการปฐมนิเทศที่แสนจะเป็นทางการลงจากนั้นทุกคนก็ทยอยลุกขึ้น เดินเรียงแถวออกห้องประชุมไป

ลอร่าเขย่าปลุกเด็กหนุ่มในสภาพก้มหัวหลับคาเก้าอี้ หลังจากทนสับประหงกจากเพลงกล่อมเด็กชั้นเลิศ 3 ชั่วโมงเต็ม เขย่าสักพักราเอลก็รู้สึกตัว ยื่นแขนบิดขี้เกียจหาวออกมาปิดท้ายด้วยปาดคราบน้ำลายที่ติดริมฝีปาก

“อะ อื๋อ จบแล้วหรอ ฮ้าว ! ”

ทันใดนั้นเด็กหนุ่มนิรนามสำเนียงพูดอังกฤษแบบรัสเซีย เหลียวหน้ามาพูดกับราเอล

“ เฮ้อ !!! อะไรเป็นทางการนี่น่าเบื่อ ชวนง่วงจริงๆนะ นายว่างั้นไหม ”

“ อื้อ น่าเบื่อจริงๆ แหละ ” ราเอลหันไปคุยกับเขาเช่นกัน หลังจากนั่งติดกันมาหลายชั่วโมงแต่ไม่ได้ใส่ใจ  เด็กคนนั้นผมสีขาวสั้น คิ้วขาว ผิวขาว จมูกมีสันนิดนึง ดวงตาสีเขียวหม่นคล้ายราเอล

“ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าดีมั้ยครับ  ผมชื่อ ยูริ อิวาน (Yuri Ivan ) ขอให้เรียกผมว่า อิวานละกัน ”  อิวานแสดงรอยยิ้มมิตรไมตรี มาดนิ่งสง่าแบบผู้ใหญ่  ยื่นมือขวามาเสนอไมตรี ตัวของเขาเหมือนมีออร่าบางอย่างทำให้คนรู้สึกไว้วางใจเปล่งออกมา

“ อื้อ  ยินดีที่ได้รู้จัก อิวาน  ผมราเอล บลอร์ดมอร์ส่วนนี่ ลอร่า ดาเวี่ยน ” เด็กหนุ่มจับมือตอบรับไมตรีนั่นและแนะนำตัวด้วย

“ลอร่าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อิวาน ”

อิวานมองสภาพฝูงชนกรูกันหน้าประตูทางออกจึงหันมาถามเพื่อนใหม่ทั้งสอง

“อื้ม ตอนนี้คนเยอะอยู่เลย คงจะเดินลำบาก รอคนซาๆลงก่อนแล้วค่อยลุกไปดีกว่ามั้ย ? ”

ราเอลตอบกลับไปพลางเหลียวไปสบตากับลอร่า

“ยังไงก็ได้เราไม่รีบเนอะ ลอร่า ”

ลอร่ายิ้มแย้มพยักหน้าเออห่อหมกตามราเอล

ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนใหม่ที่ทยอยออกห้องประชุม

เด็กนิรนามคนนึงใส่เสื้อสเว็ตเตอร์สีชมพูกำลังยืนมองกลุ่มราเอลที่กำลังพูดคุยสานมิตรกันอยู่ห่างๆ  ล้วงกระเป๋ากางเกง ควักลูกบอลเหล็กทรงกลมเล็กขนาดประมาณลูกพินบอล

ลูก เหล็กแตกตัวออกมาเป็นหุ่นยนต์แมลงปอขนาดจิ๋ว  เมื่อมันสยายปีกใส จังหวะขยับปีกรัวจนแทบมองไม่ทัน คลื่นพรางตาได้ปกคลุมร่างจนแปรสภาพล่องหนไปในพริบตา

พอเด็กนิรนามแน่ใจว่ามันล่องหนเรียบร้อยก็แบมือปล่อยมันโบยบินออกไป

“ ดูท่าหมาก ผู้ถูกฆ่า ผู้ตามล่า ผู้สอบสวน ทุกตัวจะเข้าประจำที่แล้วสินะ ”   สิ้นคำในรำคอเด็กคนนั้นเดินแฝงกับกลุ่มชนอันตธานหายลับตาอย่างว่องไว

หนึ่งความเห็นบน “บันทึกผจญภัยผลึกสีชาดตอนที่ 4 สู่อวกาศครั้งแรก (แก้ไขแล้ว)”

  1. ข้อสังเกตุ
    1. เทคโนโลยี่ในขณะนั้น (มีโรงเรียนในอวกาศแต่เทคโนโลยียานอวกาศดูขัดๆกันชอบกล)
    2. การแบ่งส่วนของการเดินเรื่อง โครงสร้างสามส่วน (เกริ่นนำ, เนื้อเรื่อง, สรุป) สามารถใช้ได้ในทุกๆช่วงของการเดินเรื่อง
    3. ประเด็นของเรื่อง ต้องการจะเล่าอะไร อย่างบทนี้ น่าจะเป็นเรื่อง ปูพื้นความสัมพันธ์ และ พฤติกรรมของตัวละคร ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่ามันยาวเกินไป หลายๆฉากตัดออกได้ โดยไม่สูญเสียประเด็ฯหลัก ครับ
    4. จังหวะของเรื่อง เร่งเพื่อสร้าง movement และ momentum, ดึง เพื่อสร้างช่วงเวลาคิด และฐานอารมณ์
    อย่าดึงนานเกินไป เพราะคนอ่านจะเบื่อ และ อย่างเร่งตลอดเวลา เพราะคนอ่านจะเหนื่อย

    สรุป
    ในช่วงนี้มีตัวละครหลัก 3-5 ตัว เรย์, ลอร่า, ราเอล (รวม ยูริ อิวาน ด้วยไหม เพราะโผล่มาแป๊บเดียว) และ เด็กนิรนาม
    ส่วนที่น่าจะเป็นเนื้อหาสำคัญคือ character และ ความสัมพันธ์
    ทั้งสองส่วนไม่จำเป็นต้อง แสดงออกจนถึงขีดสุดในฉากเดียว สามารถ ค่อยๆเปิดเผยในระหว่างการเดินเรื่องช่วงอื่นๆได้
    และถ้าแสดงออก ผ่านเหตุการณ์ที่มีผลต่อเนื่อเรื่อง จะดีกว่า

    การสร้าง character ที่เด่นชัด และเน้นย้ำ character นั้น เป็นครั้งคราว น่าจะช่วยสร้างความทรงจำต่อตัวละครได้
    เช่น
    ขยับแว่นตา
    ผอมเกร็ง จนดูเก้งก้าง
    ตัวเล็ก ว่องไว มุดหลบหลีกเก่ง
    ตัวท้วม ตัวใหญ่ อุ้ยอ้าย
    หรือ เด็กวัย 17 ในชุดขาวทั้งตัว สว่างจนดูแสบตา (แทนที่จะระบุว่าเป็น เด็กนิรนาม แล้วให้เสื้อขาวเป็นลักษณะประจำตัวของตัวละครตนนี้ไป เป็นต้น)

    แต่ทิ้งเรื่องได้ดีครับ

ใส่ความเห็น