the house that’s always clean
อัลวิน สูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด หลังจากการวิ่งออกกำลังกายกว่าสิบกิโลเมตรที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน
แต่เขากลับพบว่า อากาศในบ้านของเขากลับให้ความรู้ปลอดโปร่งและสะอาดสะอ้านมากกว่าอากาศในบริเวณสวนสาธารณะเสียอีก
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีนาโนบอทที่ช่วยทำความสะอาดบ้านของเขาอยู่ตลอดเวลา
นาโนบอทคือหุ่นยนตร์เล็กๆในระดับ นาโนเมตร(10ยกกำลัง-9 เมตร) ซึ่งถึงแม้ปัจจุบันจะอยู้ในระดับที่เล็กกว่านั้นแล้วก็ตาม แต่คำว่านาโนบอทถูกใช้เรียกจนเป็นคำติดปากไปเสียแล้ว(ปัจจุบันเทคโนโลยีอยู่ที่ อัตโตเมตร แต่ควาดว่าจะไปสู่ ยอกโตเมตร ภายในปลายปีนี้)
MAID 3.2.1 (Multi-perpose Appliance Initial for Delight) เป็นระบบบริหารจัดการที่พักอาศัยโดยนาโนบอทที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
แบ่งการทำงานออกเป็นสามส่วนหลักๆคือ สร้าง ทำลาย และ สื่อสาร
การสร้างในที่นี้คือการปรับเปลี่ยนรูปทรง การสังเคราะห์เคมีบางประเภทเช่นน้ำสะอาดโดยดึงโมเลกุลของไฮดโรเจนและออกซิเจนออกจากอากาศ และรวมถึงการสังเคราะห์พลังงานจากองค์ประกอบแวดล้อม เช่นความร้อนจากผิวกายมนุษย์, การยืดหดตัวของพื้นที่โดยรอบ, การแตกตัวและรวมตัวของอะตอม(fission & fusion) เป็นต้น ซึ่งพลังงานที่เกิดขึ้นสามารถหล่อเลี้ยงการใช้งานภายในอาคารได้เพียงพอ
การทำลาย มักมุ่งเน้นไปที่การทำความสะอาดเป็นหลัก เช่นรอยเปื้อนทั่วไป ไปจนถึง การกำจัดขยะครัวเรือน และของใช้ทั่วไป หรือแม้แต่ตัวนาโนบอทที่ชำรุดเสียหายเอง
การสื่อสาร ประกอบด้วยการรับและการส่งข้อมูลทั้งแง่รูปภาพ เสียง อักขระ คลื่นความร้อน เป็นต้น
นาโนบอทสามารถสร้างตัวเองทดแทนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆได้ ทั้ง จอภาพแสดงผล โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั้งกระดาษที่เราเคยรู้จัก
คุณไม่ต้องทิ้งทำลายสิ่งใดๆอีกต่อไป เพราะมันคือนาโนบอทที่จะจัดเรียงตัวใหม่อันเป็นส่วนหนึ่งของผนังบ้านของคุณเอง
ก่อนที่เขาจะอาบน้ำชำระร่างกาย เสียงกริ่งเรียกจากประตูหน้าก็ดังขึ้น
…
เมธี ยืนมองร่างไร้วิญญาณของ อัลวิน ด้วยความรู้สึกที่สับสน ขณะระลึกถึงคดีเก่าๆที่เคยทำมาเมื่อหลายสิบปีก่อน
“รายงานข้อมูลทั้งหมดได้มาแล้วครับ” วิทยารายงาน
…
ยามาดะ ฮามานาวะ ชายวัยสามสิบที่มีรูปร่างหนากว่าคนทั่วไปในวัยเดียวกัน นั่งอยู่ภายนอกอาคารด้วยท่าทางหวาดวิตก
เขาพึ่งเห็นเพื่อนรักตายไปต่อหน้าต่อตา
“เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังหน่อย” เมธีถามโดยมีวิทยายืนอยู่ข้างๆ
“ผมมาพบเขาเมื่อเช้านี้ ตั้งใจจะชวนเขาไปเป็นแพทย์อาสา”
วิทยาขมวดคิ้ว มองหน้าเมธีอย่าง งงๆ
“นี่นายอย่าบอกนะว่าไม่รู้จักแพทย์อาสา” เมธีหลุดปากออกมาอย่างเหลืออด
วิทยาได้แต่ออกเสียงเอ้ออ้าอยู่ในลำคอ
“อย่าไปสนใจเขาเลยครับ มิสเตอร์ฮามานาวะ” เมธีตัดบท
“อัลวินเป็นแพทย์ที่เก่งมาก แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเขาแทบจะตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ ประกอบวิชาชีพผ่านการผ่าตัดทางไกลรวมทั้งการพบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัวก็กระทำผ่านระบบสื่อสาร ผมเองก็ต้องพูดคุยกับเขาผ่านรูปจำลองสามมิติเป็นส่วนใหญ่ เขาหมกตัวอยู่แต่ในบ้านมาสักสี่ห้าปีแล้วเห็นจะได้” ยามาดะเล่าต่อ
“แล้ววันนี้?”
“ผมพึ่งเสร็จงานในแถบอเมริกาใต้ ก็เลยถือโอกาสแวะมาทักทายเขาหน่อย”
“แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ”
“เรานั่งคุยกันอยู่สักพัก … แล้วเขาก็เริ่มไอ … ตอนแรกผมคิดว่าเป็นฝุ่น หรือการแพ้อากาศธรรมดา”
“ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในการควบคุมของ MAID 3.2.1” วิทยาแทรก เมธีถลึงตาใส่
“ผมก็ไม่เข้าใจ ผมไม่รู้” ยามาดะ ละล่ำละลัก
…
“ทราบสาเหตุการเสียชีวิตหรือยัง” เมธีถาม หลังจากสั่งให้เจ้าพนักงานนำตัวยามาดะไปที่สถานีตำรวจแล้ว เพื่อรอการสอบสวนต่อไป
ภาพของแกรี่ปรากฎขึ้นบนจอประสาทตา
“หัวใจล้มเหลว กำลังตรวจสอบภาวะแตกตัวของเม็ดเลือดแดง ต้องรอผลตรวจสอบโครงสร้างทางเคมี แต่ผลตรวจสอบเบื้องต้นคือไวรัส เขาเสียชีวิตจากโรคหวัด”
“มันเร็วขนาดนั้นเลยหรือ เป็นไปได้อย่างไร”
“ผมกำลังตรวจสอบเม็ดเลือดขาว”
“อย่าบอกนะว่าเขาไม่มีภูมิคุ้มกันใดๆเลย”
แกรี่เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
เมธี ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในบาร์เครื่องดื่มที่เมธีนั่งจมอยู่โดยมีวิทยานั่งส่ายหัวไปมาอยู่ข้างๆ
“ตกลงนี่มันคดีอะไรกันแน่ครับหัวหน้า … ฆาตกรรม … ฆ่าคนตายโดยประมาท … เสียชีวิตตามธรรมชาติ ??? แล้วใครเป็นคนผิดครับ นายยามาดะ โปรแกรม MAID หรือตัวนายอัลวิน เอง”
“นั่นคงเป็นภาระของฝ่ายอัยการแล้ว” เมธีตอบ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือการไม่สามารถกำจัดไวรัสได้อย่างทันท่วงทีของโปรแกรม MAID เนื่องจากนายอัลวินยืนอยู่ใกล้นายยามาดะมากเกินไป
นายยามาดะผู้ซึ่งเดินทางมาจากอเมริกาใต้พร้อมด้วยเชื้อไวรัสท้องถิ่น ซึ่งหากเป็นคนในสภาพร่างกายปกติก็จะสามารถจัดการเชื้อนี้ภายในร่างกายของตนเองได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แต่ด้วยการรักษาความสะอาดอย่างสุดโต่ง จนไม่เหลือไวรัส หรือแบคทีเรียใดๆในบริเวณบ้านของนายอัลวิน ระบบยังครอบคลุมไปถึงบริเวณรอบๆบ้านของเขาเนื่องจากนาโนบอทที่มีอยู่โดยรอบของบ้านพักอาศัยในบริเวณนั้น ส่งผลไปถึงระบบภูมิคุ้มกันพื้นฐานของร่างกายของนายอัลวิน
เหมือนการไม่ได้เผชิญเชื้อโรคบ้าง ร่างกายจึงไม่มีภูมิคุ้มกัน
เพียงแต่เมธีคาดไม่ถึงว่า ด้วยระยะเวลาเพียงห้าปีถึงกับมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของนายอัลวินขนาดนี้เลยเชียวหรือ
“มันยิ่งกว่านั้นอีกนะครับหัวหน้า จากที่ดูบันทึกนายอัลวินดื่มนาโนบอทเป็นประจำเพื่อให้มันเข้าไปจัดการทำความสะอาดในร่างกายเขา”
นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ดีท๊อก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขกำลังฉีดพ่นยากำจัดไวรัสในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเมธีหวังว่าจะไม่มีใครในบริเวณนั้นติดเชื้อไปเสียก่อน
“เชื้อโรคข้ามถิ่นมาจากอเมริกาใต้ เหมือนการล้างแค้นของชาวเผ่ามายันต่อสเปน …. เอ๊ะ … แต่คุณอัลวิน ไม่ใช่คนสเปนนี่ครับ” วิทยายังคงจ้อต่อขณะยืนตัวส่ายไปมาเพราะกำลังครุ่นคิด
เมธีถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วความพอดีมันอยู่ตรงไหน? มีสะอาดเกินไป หรือ สกปรกเกินไป หรือไม่? หรือแท้จริงแล้วมนุษย์เราเพียงปรับตัวตามสภาพที่เป็นอยู่ไปเรื่อยๆโดยไม่มีสิ่งที่ควรจะเป็นอย่างชัดเจน
“ว่าแต่แพทย์อาสาคืออะไรหรือครับ?”
จบ(ตอน ๑)