องก์ที่ ๑ แผนเปลี่ยนโลก [ ตอนที่ ๓ : มานพ ]

มานพ เป็น ชายหนุ่ม อายุห้าสิบ ที่มีสุขภาพแข็งแรงตามมาตรฐาน ของคนทั่วไป
ถึงแม้ การติดต่อสื่อสาร ใน ปัจจุบัน จะมีความสะดวกเป็น อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น tele-conference , halograme
แต่ ความเป็น เซลขายสินค้าทำให้เขาพบว่า การมี ปฏิสัมพันธ์ แบบซึ่งหน้า สร้างความสัมพันธ์ ที่ดีกว่า ต่อคู่ค้า ของเขา
ไม่ว่า วิทยาการ จะก้าวหน้าไปเพียงไร , ไม่ว่า ผู้คน จะรู้สึกปลอดภัย ในการจ่อมจม อยู่กับตัวเอง เพียงไร
มนุษย์ ก็ ยังเป็นมนุษย์ ที่ต้องการ คบค้าสมาคม กับคนอื่นบ้างเป็น ครั้งคราว

ครั้งนี้ ก็ เป็นการเดินทางไปติดต่อ ธุรกิจ กับคู่ค้าของเขา ตามปกติ
ถึงแม้ มานพ จะรู้สึก ไม่ค่อย ชอบการเดินทางผ่าน เครื่อง ปริวรรตมวลสาร นัก เพราะ ทุกครั้งที่สิ้นสุดการเดินทาง เขา จะรู้สึก ไม่ค่อย สบายตัวเท่าไร
“นาย คิดมากไปเอง” เพื่อนของเขาเคยบอก “ก็ใช้มาตั้งหลายสิบปีแล้ว ไม่เห็นมีใครบ่นอะไร สักคำ”
เขาอาจจะคิดมากไปเอง จริงๆ … แต่มันก็ความคิดของเขา
ไม่สบายใจ ก็คือ ไม่สบายใจ


วิทยา เดินเข้าห้อง ชันสูตรพลิกศพ ด้วยความรู้สึก อึดอัด อย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้ เขา จะเคยเข้ามาในห้อง ลักษณะ นี้ นับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่สมัย เป็น นักเรียนตำรวจ จนถึง ระหว่างการทำงานในตำแหน่ง สายตรวจ
กลิ่น จางๆ ของ ฟอร์มาดีไฮล์ ยังคงรบกวนเขา อย่างสม่ำเสมอ และ เท่าเทียบกัน ตลอดมา

“นี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่หยุดการ พัฒนา มาร่วม หลายพันปี ” วิทยาคิด
ถึงแม้ ฟอร์มาดีไฮล์ จะถูกระบุว่า เป็นสารพิษ ก่อมะเร็ง และถูก ห้ามใช้ ในสหภาพยุโรป หลายสิบปี
แต่เมื่อ การแพทย์ เจริญถึงจุดที่สามารถ รักษามะเร็งได้ในทุกๆเงื่อนไข สารพิษนี้ กลับถูกนำกลับมาใช้ อีกครั้งหนึ่ง
แน่นอนมันถูกควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด จากองค์การ อาหารและยา แห่งโลก
แต่ประชาชน บางส่วนยังคงออกเสียงคัดค้านอย่างต่อเนื่อง ในการนำมันกลับมาใช้ใหม่

“นี่หรือ ศพ ที่มาจาก เครื่อง ปริวรรตมวลสาร” คาเนรุ โทชิโยจิ เอ่ยเสียงดัง
เขาก็พึ่งจะเดินเข้าห้องมาจากอีกประตูหนึ่ง … ประตูห้องพักผ่อน ของเขา
วิทยา เข้าใจว่า เขาคงเปิด เครื่องเล่น มีเดียเพลเยอร์ ในช่องหูของเขา อยู่

ศพของมานพ อยู่ในผ้าคลุมพลาสติกสีดำทึบ แถบเทป แสดงว่า ยังไม่มีการเปิด ชันสูตร
นี่เป็นขั้นตอนตามปกติ แพทย์ ผู้ทำการชันสูตร ต้องกระทำต่อ หน้า นายตำรวจผู้ทำคดี รวมทั้ง ผู้ช่วยอีกสองคน เป็น อย่างน้อย จากคณะแพทยสภา
นี่เป็น มาตราการ หลังจาก กองพิสูจน์หลักฐาน ต้องเสียเงินค่าฟ้องร้อง และ ค่าใช้จ่ายในการสู้คดี จำนวนมาก เมื่อถูก ญาติผู้ตาย หัวหมอ ร้องเรียนถึงขั้นตอนในการทำงาน
แต่นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง

วิทยา ชี้ไปที่ คาเนรุ ก่อนใช้นิ้วชี้นั้น ตบที่หลังหูตัวเองเบาๆ
คาเนรุ มีท่าที นึกขึ้นได้ … เขา ขยับกรามตนเองเล็กน้อย ตอนที่ผู้ช่วยอีกสองคนจาก คณะแพทยสภา เดินเข้ามา
“พร้อม หรือ ยัง” คาเนรุ เอ่ยด้วยระดับเสียงที่ดังเป็น ปกติ
วิทยา ยิ้มเล็กน้อย เขาอยากเห็น ท่าที ของ คาเนรุ ต่อศพที่อยู่ตรงหน้า
ศพที่มีสภาพ แปลกประหลาดที่สุด เท่าที่เขาเคยเห็นมา

คาเนรุ ตัด แถบเทป อย่างชำนาญ
เสียงรูดซิป ดังบาดหู

ผู้ช่วยสองคน ผงะถอยหลังหลายก้าว
คาเนรุ แค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
วิทยา อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ “ให้มันได้อย่างนี้สิ”

มานพ นั่งสลดหดหู่ อยู่บนเก้าอี้ ตรวจโรค
นายแพทย์ ยืนอยู่ข้างๆ ตบไหล่ เขาเบาๆ
“การรักษา ยังสามารถทำได้นะครับ … การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกต่อไปแล้ว”
“แต่ เมื่อสักครู่นี้ คุณหมอบอกว่า มันมีความยุ่งยาก …” เสียงของ มานพ ขาดหายเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ
“ครับ คือ เนื่องจาก ตำแหน่ง ปอด ที่ผิดรูป ของคุณ จากการผ่าตัดครั้งก่อน”
“มัน อาจจะมีความยุ่งยาก ซับซ้อน อยู่บ้าง แต่ก็ ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” นายแพทย์ อธิบายต่อ
“การเซ็นต์ เอกสาร เป็น นโยบาย มาตรฐาน นะครับ” นายแพทย์ ตบไหล่ มานพ เบาๆ อีกครั้ง
เอกสาร การรับผิดชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงการไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ไม่ว่า จะเกิดความผิดพลาด ใดๆ ขึ้นก็ตาม

นั่นหมายความว่า หาก แพทย์ เอามีดแทงเขาเข้าที่หัวใจ
มานพ จะเป็นหนี้ โรงพยาบาล แห่งนี้ สามล้าน เครดิต
มานพ เซ็นต์ ชื่อพลางทอดถอนหายใจ

“ไม่น่าเชื่อ” คาเนรุ อุทาน หลังจาก เริ่ม ชันสูตร ไปได้สัก สิบห้า นาที
นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยา ที่ วิทยา อยาก เห็น
เขาอยากเห็นความกลัว … อาการตกใจ …
ไม่ใช่ แบบนี้
“อะไร” วิทยา เอ่ยถาม เสียงแข็ง
“นายว่า ผู้ตาย พยายามพูด ใช่ไหม”
“อื้อ … เห็น นายสถานี บอกอย่างนั้น แต่ ฉันว่า …”
“โอ้ … ” น้ำเสียงตื่นเต้นยังคงออกมาจากปาก คาเนรุ ไม่หยุดหย่อน
“นี่ … มัน อะไรกันแน่”
“นายดูนี่สิ” คาเนรุ ชี้ไปที่ตำแหน่งของกล่องเสียง
“หมอ นี่ ไม่ได้คอหัก กระดูกทุกชิ้นยังคงเชื่อมต่อ อย่างสมบูรณ์ กล่องเสียงไม่มีร่องรอยการบวมช้ำ หรือ ฉีกขาด
… เส้นประสาท ทุกเส้น ยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ และ อยู่ในสภาพดีเสียด้วย … ไม่ว่าจะเป็น แขน มือ ท้อง และขา”
ทาเครุ ไล่ชี้อย่างรวดเร็ว จนวิทยา มองตามไม่ทัน
“หมายความว่า อะไร” วิทยา ถามอย่างหงุดหงิด
“ถ้าจาก สภาพ ภายใน ฉันว่า นายคนนี้ เป็นคนพิการ และ เขามีชีวิต แบบนี้ มาตั้งแต่เกิด”
“บ้า น่า” วิทยา ร้องเสียงหลง เขาพลิกแฟ้มในมืออย่างรวดเร็ว
รูป ผู้ชาย ธรรมดา สูง 180 เซนติเมตร กางแผ่หรา อยู่ตรงหน้า
“นี่ โว้ย รูป ของผู้ตาย … เบิ่ง ตาดูซะ … เอกสารทางการแพทย์ ก็ อยู่ครบ … ดีเอ็นเอ ก็ยืนยันแล้ว”

“งั้น ก็แปลก …” คาเนรุ กอดอก ครุ่นคิด
“ดูจาก อวัยวะ ภายใน เหมือนมัน งอกออกมาแบบนั้น … อวัยวะทุกส่วน ยังงเชื่อมต่อกันอยู่ … ถึงแม้ มันจะอยู่ผิดที่ผิดทาง และเชื่อมต่อกันแบบผิดๆ ไปเสียหมดก็ตาม”

“เป็นไปได้ไหม ว่า เครื่อง ปริวรรตมวลสาร ทำงานล้มเหลว” วิทยา ถาม
“นั่นคงเป็นเหตุผลเดียวที่จะบอกได้ … แต่ฉันไม่อยากคิด แบบนั้นเลย”

วิทยา ก็เช่นกัน
เขาอดรู้สึกเสียวสันหลังไม่ได้ หากมันเป็นเช่นนั้นจริง
นั่นหมายความว่า เขา ผ่านการเฉียดตายมานับครั้งไม่ถ้วน
รวมถึง คนทุกคนในโลก

“แล้วนายรู้อะไรไหม” คาเนรุ เอ่ย ต่อ … วิทยา มอง กลับด้วยสีหน้า สงสัย … เขาควรจะรู้อะไรอีก
“นายคนนี้ คงทรมาณมากตอนที่ ออกจากเครื่องปริวรรตมวลสาร แล้วเห็นตัวเองในสภาพเช่นนี้”

“แล้วเขาเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร”
นั่นสิ ถ้าทุกอย่างยังคงเชื่อมต่อ ราวกับเกิดมาเป็นอย่างนั้น
แล้ว เขาจะเสียชีวิต ด้วยสาเหตุใดกันเล่า
“ถึงแม้ว่าจะไม่มีบาดแผล แต่การรับรู้ของร่างกายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง … ตำแหน่งที่ผิดพลาด พวกนี้ เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน พร้อมๆ กับการรับรู้ของร่างกาย … ผมว่า คงมีอาการ ไม่ต่างจาก การทนพิษ บาดแผล ไม่ไหว” คาเนรุ สรุป
“ถึงแม้จะไม่มีบาดแผลก็ตาม” วิทยา เสริม
“ใช่ ฟังดูแปลกดีใช่ไหม”
“จะมี หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ยืนยันไหม”
“ขอตรวจสภาพเคมีในสมองก่อน ก็น่าจะบอกได้”

วิทยา พยักหน้า
เวลาผ่านไป แล้ว สองชั่วโมง นับตั้งแต่เกิดเหตุ
มีฝูงชน ติดค้างอยู่ที่ สถานี ปริวรรตมวลสาร เป็น หมื่น คนแล้วกระมัง
แต่หากสิ่งที่ วิทยา กลัวเป็นจริง
จะไม่มี เครื่อง ปริวรรตมวลสาร อีกต่อไป

ถึงเวลานี้ เขาคงต้องไปพบ คนที่มีส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องนี้
ผู้คิดค้น ประดิษฐ์ เครื่อง ปริวรรตมวลสาร เป็นผลสำเร็จ
ดร. วิชาเยนร์ เค. ชวาร์เคฟสชารค์

ใส่ความเห็น