เซลล์แมนอนาคต

โดย วรากิจ เพชรน้ำเอก

โชคชะตาของเซลล์แมนธรรมดาๆอย่าง ‘สต๊อฟ จี๊ป’ กำลังจะเล่นตลกกับเขาอย่างเหลือเชื่อเมื่อในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังตัดแต่งกิ่งไม้อยู่ในสวนเล็กๆหลังบ้าน อยู่ๆบรรยากาศอันอบอุ่นกลับเย็นเยียบลงอย่างฉับพลัน ท้องฟ้าที่เคยแจ่มใสก็กลับเกิดประจุไฟฟ้าลั่นเปรี้ยงปร้างอย่างน่ากลัว

สต๊อฟหยุดกึก เขาแหงนหน้ามองขึ้นไปเบื้องบน วัตถุบางอย่างกำลังลอยละลิ่วลงมาและตกลงตรงหน้าของเขาพอดีพร้อมๆกับที่ท้องฟ้าอันปั่นป่วนก็กลับเป็นปรกติดังเดิม เขาหยิบวัตถุนั้นขึ้นมา มันเป็นวัตถุคล้ายโลหะสีเงินวาววับดูคล้ายกับนาฬิกาข้อมือที่ใหญ่โตกว่านาฬิกาข้อมือทั่วไปและมีหน้าปัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำ น่าแปลกที่มันไม่บุบสลายแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าจะตกลงมาจากความสูงขนาดนั้น

เขาลองสวมมันเข้ากับข้อมือ มันหลวมมากในทีแรกแต่แล้วสายรัดของมันก็กลับหดรัดเข้ากับข้อมือของเขาอย่างพอดิบพอดีได้เองโดยที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรกับมันเลย เขาพยายามถอดมันออกด้วยความตกใจแต่ก็ไม่รู้ว่าจะถอดมันได้อย่างไร

…..แต่แล้ว ทันใดนั้น…..

หน้าปัดอันมืดทึบของเจ้าสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้าก็เปล่งแสงสีเขียวเรืองรองขึ้นพร้อมๆกับได้เกิดประจุไฟฟ้าลั่นเปรี้ยงปร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่งคราวนี้มันเกิดขึ้นตรงหน้าสต๊อฟห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวเท้านั้น

“โปรดระบุปีที่ต้องการ”
เสียงคล้ายเสียงของผู้หญิงดังออกมาจากอุปกรณ์ลึกลับที่สต๊อฟสวมอยู่ที่ข้อมือ

“อะไรนะ?” สต๊อฟงุนงง
“ท่านมีอีกเวลาสิบวินาทีในการระบุปีที่ต้องการ” เสียงนั้นร้องเตือนอีก
“2020” สต๊อฟตะโกนลั่น
“ปีคริสต์ศักราช 2020 ยินดีต้อนรับ” เสียงนั้นตอบกลับ

…..ทันใดนั้น…..
อากาศตรงหน้าของสต๊อฟได้แหวกออกเป็นโพรงใหญ่
สต๊อฟมองเห็นใครบางคนอยู่เบื้องหลังโพรงอากาศนั้น
“พระเจ้า!…นั่นมัน” สต๊อฟตะลึง

เขาจ้องมองชายคนหนึ่งซึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่เช่นกันและดูคล้ายกับว่าเขาได้เห็นบ้านของเขาอีกหลังหนึ่งอยู่เบื้องหลังโพรงอากาศนั้นด้วยราวกับถูกมนต์สะกด

สต๊อฟก้าวเข้าไปในโพรงอากาศนั้นโดยไม่รู้ตัว และได้เผชิญหน้ากับชายซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง สต๊อฟตะลึงชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาไม่มีผิดราวกับฝาแฝดเพียงแต่ดูแก่กว่าเขาเท่านั้น ทั้งคู่ต่างยืนจ้องมองกันและกันอยู่เป็นเวลานานที่อยู่ๆก็มีใครอีกคนหนึ่งซึ่งเหมือนกับตนราวกับแกะปรากฏตัวขึ้น

“นาย!…” เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นตกตะลึงเมื่ออยู่ๆสต๊อฟปรากฏตัวขึ้น
“สต๊อฟ จี๊ป ฉันชื่อสต๊อฟ จี๊ป แล้วนายล่ะ?” สต๊อฟแนะนำตัวเองและถามกลับ
เขาแน่ใจว่าเขากำลังยืนอยู่ในบ้านของเขาเอง เขาหันไปมองด้านหลัง โพรงอากาศและประจุไฟฟ้าหายไปแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ ฉันต่างหาก สต๊อฟ จี๊ป” ชายคนนั้นเถียง

สต๊อฟเล่าเรื่องประหลาดที่ทำให้เกิดเรื่องอันเหลือเชื่อนี้ให้สต๊อฟจี๊ปอีกคนฟังแล้วอวดอุปกรณ์ลึกลับบนข้อมือที่พาเขามาที่นี่ เขาบอกว่าเขามาจากปี 2012

“แปลว่าเจ้านาฬิกาข้อมือนั่นพานายข้ามกาลเวลามายังอนาคต”
“ปีนี้คือปี 2020 ใช่มั้ย?” สต๊อฟจำได้ว่าเขาเป็นคนเลือกปีเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ใช่” สต๊อฟอีกคนตอบ หมายความว่าเขาแก่กว่าสต๊อฟจากอดีตถึง 8 ปี

สต๊อฟในอนาคตได้พาสต๊อฟนั่งรถยนต์ไปดูความเปลี่ยนแปลงของโลกในปี 2020 มันยังคงเป็นรถยนต์คันเดิมที่เขาใช้อยู่ในปัจจุบันทั้งๆที่รถยนต์ที่เขาเห็นวิ่งอยู่ตามท้องถนนในปี 2020 พัฒนาไปมากด้วยรูปทรงที่ทันสมัยแต่เขาก็ยังเห็นรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนจำนวนไม่น้อยที่ยังเป็นรถยนต์จากยุคของเขา

“นายทำอาชีพอะไร?” สต๊อฟถามและประหลาดใจที่ตัวเขาในอนาคตยังคงเป็นเซลล์แมนอยู่

“ปี 2020 ไม่มีอะไรแตกต่างจากปี 2012 ของนายมากนักหรอก สินค้าก็ยังคงเดิมๆนั่นแหละเพียงแต่เทคโนโลยีดีขึ้นเท่านั้น เรายังคงใช้รถยนต์อยู่แค่มันใช้อากาศเป็นเชื้อเพลิงแทนพลังงานชนิดอื่น แล้วมนุษย์ก็ยังไปไม่ถึงดาวอังคารอยู่ดีนอกจากส่งได้แค่หุ่นยนต์ไปสำรวจ ตอนนี้ฉันเป็นเซลล์แมนขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ”

การสนทนากับตัวเองเริ่มออกรสออกชาติมากขึ้นเมื่อพูดคุยกันด้วยเรื่องอาชีพที่ตัวเองถนัด

“นายพอจะช่วยฉันอะไรบางอย่างได้มั้ย?” สต๊อฟมองเห็นช่องทางทำเงินขึ้นมาทันที
“แน่นอน ก็เราเป็นคนๆเดียวกันนี่” สต๊อฟในอนาคตรับปากทันที
“ฉันอยากหาสินค้าไฮเทคจากยุคของนายไปขายในยุคของฉันคิดดูสิ มันเป็นเทคโนโลยีที่มาก่อนกาลเวลาเชียวนะ ฉันต้องรวยแน่และหากฉันรวย นายซึ่งเป็นอนาคตของฉันก็ต้องรวยขึ้นด้วย” สต๊อฟเล่าแผนการให้ตัวเขาเองในอนาคตฟัง

ดูเหมือนว่าสต๊อฟในอนาคตเองก็สามารถจินตนาการได้ถึงชีวิตของเขาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปหากเขาสามารถช่วยให้อดีตของเขาเปลี่ยนแปลง

“เอาล่ะ…ฉันพอนึกออกแล้วว่านายควรขายอะไรในปีค.ศ.ของนายมันฮิตมาก”

……….

“ว้าว!…นี่มันไอแพด 30 นี่ เป็นไปได้ไง?” ‘เดโล’ร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้นแกมประหลาดใจเมื่อเห็นกล่องคล้ายโลหะสีทองวาววับซึ่งมีภาพโฮโลแกรมสามมิติสัญลักษณ์รูปผลแอปเปิลที่ถูกกัดแหว่งกับตัวอักษร ไอแพด 30 ที่ลอยขึ้นมากลางอากาศเหนือกล่องเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีไอแพด 30 วางจำหน่ายแล้วทั้งๆที่วัยรุ่นสาวกแอปเปิลอย่างเขาที่เฝ้าติดตามข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของแอปเปิลอยู่ตลอดเวลายังเพิ่งได้ใช้ไอแพด 3 เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

สต๊อฟยิ้ม “แม้แต่บริษัทแอปเปิลเองก็ยังไม่มีเลยนะเธอจะซื้อมันได้ก็ต้องรอจนกว่าจะถึงปี 2020 โน่นแน่ะ” เขาก็เริ่มการขายได้อย่างน่าสนใจ
“2020 นั่นมันอีกแปดปีเชียวนะครับ คุณมาจากอนาคตหรือไง?” เดโลมองสต๊อฟด้วยความสงสัย
“เธอไม่เชื่อล่ะสิ คอยดูนะ” เขาสัมผัสภาพโฮโลแกรมสัญลักษณ์แอปเปิล

ฝากล่องสีทองเปิดขึ้นช้าๆอย่างนุ่มนวลด้วยกลไกที่ซ่อนอยู่ภายในพร้อมเสียงดนตรีดังออกมาจากกล่องนั้นเผยให้เห็นสินค้าที่อยู่ภายในเขาหยิบมันขึ้นมาอวดลูกค้าหนุ่มน้อยที่ได้แต่อ้าปากค้างอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องเป็นเพียงวัสดุคล้ายแผ่นพลาสติกใสแจ๋วที่ไม่มีอะไรอยู่เลยแม้แต่หน้าจอ

“นี่น่ะเหรอ ไอแพด 30 จากอนาคต” เดโลประหลาดใจสินค้าของสต๊อฟดูไม่เหมือนคอมพิวเตอร์สักนิด
“คอนดูนะ…หน้าจอ” สต๊อฟออกคำสั่งเบาๆ
ทันใดนั้น
แผ่นพลาสติกใสในมือของสต๊อฟก็เปลี่ยนเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์สามมิติพร้อมสัญลักษณ์ของแอพพลิเคชั่นมากมาย
“จอแสง”
ทันทีที่สต๊อฟออกคำสั่งภาพจากหน้าจอก็ลอยออกมาจากแผ่นพลาสติกใสกลายเป็นเป็นจอแสงลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าอย่างน่ามหัศจรรย์
“ว้าว!…นี่มันมายากลชัดๆ” เดโลอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ขยาย 3 เท่า” สต๊อฟสั่งอีก และแน่นอน
หน้าจอสามมิติของไอแพด 30 ก็ขยายขนาดเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าอย่างรวดเร็วการสาธิตของเขาสามารถเรียกผู้ชมได้อย่างแน่นขนัดทีเดียว
“ตกลง ผมซื้อ”

……….

สินค้าจากอนาคตของสต๊อฟขายหมดเกลี้ยงภายในพริบตา ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของเทคโนโลยีจากอนาคตด้วยกันทั้งนั้นเขารู้สึกว่าธุรกิจของเขากำลังจะไปได้สวยทีเดียวตั้งแต่เขามีเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลา เป็นของตัวเอง เขามองเห็นช่องทางที่จะทำเงินมหาศาลอย่างง่ายดายจากเจ้าเครื่องมือวิเศษที่พระเจ้าประทานมาให้ เขากลับไปหาตัวเองในปี 2020 อีกครั้ง

“นายคิดดู ขนาดบริษัทแอปเปิลยังต้องมาขอซื้อกับฉันเลย เขาอยากรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเองในอีกแปดปีข้างหน้าเป็นยังไงเขาสามารถผลิตมันขึ้นมาในปีนี้ 2012 เลยก็ได้มันอาจช่วยย่นระยะเวลาของการพัฒนาเทคโนโลยีได้มากทีเดียว”

สต๊อฟสนุกกับการขายสินค้าอนาคตเสียแล้ว
เขาขายเสื้อผ้าที่ปรับขนาดให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ได้เองโดยอัตโนมัติ , ปากกาไร้หมึกที่สามารถบันทึกข้อความที่เขียนเอาไว้ในหน่วยความจำ , ทีวีไร้จอซึ่งใช้อากาศเป็นจอรับภาพ , จนกระทั่งรถยนต์ไร้พวงมาลัยที่สามารถพาผู้โดยสารไปถึงจุดหมายได้ด้วยตัวมันเอง
…..ในระหว่างนั้นเองบรรยากาศเบื้องบนปรากฏเป็นระลอกคล้ายคลื่นที่สาดซัด…..

“ฉันน่าจะลองข้ามกาลเวลาไปให้ไกลกว่านี้นะ”

สต๊อฟคิดว่าเขาหลุดเข้ามาในโลกแห่งจินตนาการเสียอีกเมื่อเขาได้เห็นสิ่งก่อสร้างซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำยุคแปลกตา และยานพาหนะซึ่งเคลื่อนที่กันอย่างพลุกพล่านด้วยการลอยไปในอากาศอย่างเงียบกริบแทนที่รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อมันมีตั้งแต่ยานพาหนะส่วนตัวสำหรับคนเพียงคนเดียวจนกระทั่งยานโดยสารขนานใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารได้หลายสิบคนมันคือโลกในปี 2100 ที่ทุกสิ่งทุกอย่างดูอลังการตระการตาอย่างยิ่ง

ดวงตาของสต๊อฟเป็นประกายระยิบระยับทีเดียวสิ่งที่เขามองเห็นไม่ใช่เพียงแค่โลกที่เปลี่ยนไปเท่านั้นแต่เขายังมองเห็นความมั่งคั่งที่จะหลั่งไหลเข้าสู่กระเป๋าของเขาด้วย

แต่เขาจะซื้อสินค้าด้วยอะไรล่ะ ธนบัตรดอลล่าร์อาจจะยังใช้ได้ในปี 2020 แต่มันไม่มีค่าอะไรอีกแล้วในปี 2100 นักขายมือทองอย่างสต๊อฟเตรียมพร้อมสำหรับปัญหานี้เอาไว้แล้วทองคำยังคงเป็นแร่อมตะอันมีค่าไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าใดก็ตาม

ยานพาหนะส่วนตัวไร้เครื่องจักรกลนอกจากระบบต่อต้านแรงโน้มถ่วงและพลังงานสนามแม่เหล็กกำลังจะเปลี่ยนโฉมการคมนาคมไปโดยสิ้นเชิงมันดูเหมือนจานบินยูเอฟโอ.ขนาดย่อมที่เงียบกริบและไร้มลภาวะรวมทั้งเครื่องปริวรรตมวลสารซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่งได้ภายในพริบตาแล้วยังนวัตกรรมแห่งอนาคตอื่นๆอีกที่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในศตวรรษนี้ไปโดยสิ้นเชิง

บ้านหลังใหม่ของสต๊อฟเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่อันโออ่ารวมทั้งสวน
ดอกไม้หลังบ้านที่ตกแต่งด้วยมืออาชีพและแน่นอนราคาของมันย่อมคู่ควรกับมหาเศรษฐีเท่านั้น เขาเชื่อว่าตัวเขาในปี 2020 ก็คงได้อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ด้วยเช่นกัน

ทันใดนั้น
อยู่ๆบรรยากาศอันสงบเงียบก็ปั่นป่วนไปด้วยประจุไฟฟ้าที่วิ่งพล่านอีกครั้งเหมือนในวันนั้น อุณหภูมิลดลงจนรู้สึกหนาวในขณะที่อากาศตรงหน้าได้แหวกออกเป็นโพรงใหญ่ใครคนหนึ่งได้ก้าวออกมาจากโพรงอากาศนั้นเขาเป็นชายวัยกลางคนซึ่งแต่งกายด้วยชุดรัดรูปสีขาวที่ดูราวกับมนุษย์อวกาศและสวมเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลาที่ข้อมือแบบเดียวกับที่สต๊อฟสวมอยู่

“ผมมาจากปี 2150 ผมตามหาอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่นานทีเดียวผมเผลอทำมันหลุดเข้าไปในมิติเวลาขณะบินอยู่เหนือชั้นบรรยากาศและมันคงตกลงมาตรงที่คุณอยู่พอดี”

“อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นของคุณงั้นเรอะ?” สต๊อฟชูข้อมือขึ้น

“มันอันตรายมากหากใช้มันอย่างไม่ถูกต้องมันมีไว้เพื่อการสำรวจและศึกษาเท่านั้นการเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุใดๆข้ามกาลเวลาเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด มันจะทำให้เกิดระลอกคลื่นของปรากฏการณ์พาราด็อกซ์”

“ปรากฏการณ์พาราด็อกซ์คุณหมายถึงคลื่นที่กำลังเกิดขึ้นบนท้องฟ้านั่นน่ะใช่มั้ย?” สต๊อฟเริ่มกังวลกับระลอกคลื่นบนชั้นบรรยากาศเบื้องบน

“ใช่ มันเป็นปรากฏการณ์ของความขัดแย้งที่เกิดจากการปะปนกันของอดีตกับอนาคต”
“คุณคงหมายถึงการที่ผมนำสินค้าจากอนาคตมาขายในกาลเวลาของผม”
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่อยู่ในกาลเวลาที่ถูกต้องจะสลายตัวไปในไม่ช้า” ชายจากอนาคตบอก

ในทันทีที่ชายจากอนาคตพูดจบ
สินค้าจากอนาคตที่สต๊อฟนำผ่านกาลเวลาเข้ามาซึ่งกระจายอยู่ในที่ต่างๆก็ได้อันตรธานหายไปรวมทั้งคฤหาสน์หลังงามของสต๊อฟก็เริ่มอันตรธานหายไปด้วยเช่นเดียวกัน

“ต…แต่คฤหาสน์ของผมล่ะ มันสร้างขึ้นในกาลเวลาของผมนี่?”
สต๊อฟทรุดฮวบลงกับพื้น
ความมั่งคั่งที่เขาสร้างขึ้นได้มลายหายไปจนหมดสิ้นเขาพบว่าเขาได้กลับมายังบ้านเดิมของเขาอีกครั้งหนึ่ง
“คุณจะไม่มีวันได้มันมาหากคุณไม่นำสิ่งของจากอนาคตข้ามกาลเวลาเข้ามา”

“กรุณาหยุดมันทีเถอะ ได้โปรด” สต๊อฟอ้อนวอน
เขาได้แต่มองดูคฤหาสน์ของเขาพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างหายไปเหลือเพียงความว่างเปล่า
“จนกว่าระลอกคลื่นแห่งความขัดแย้งจะยุติลงผมต้องกลับไปยังกาลเวลาของผมแล้ว” ชายจากอนาคตบอก

เขาถอดเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลาออกจากข้อมือของสต๊อฟแล้วกลับเข้าเข้าไปในโพรงอากาศและร่างของเขาก็หายไปพร้อมกับโพรงอากาศนั้นในที่สุด

สต๊อฟงุนงงและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
กาลเวลาได้เอาทุกสิ่งทุกอย่างของเขากลับคืนไปจนหมดสิ้น
แต่เขาก็ยังโล่งใจที่ปรากฏการณ์พาราด็อกซ์ไม่ได้เอาบ้านของเขาไปด้วยถึงแม้ว่าระลอกคลื่นพาราด็อกซ์ยังคงอยู่ก็ตาม
มันหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากความขัดแย้งของกาลเวลายังไม่จบสิ้น แต่สต๊อฟไม่มีอะไรที่จะต้องสูญเสียอีกแล้ว

สต๊อฟตื่นขึ้นในตอนเช้าตรู่
เขารู้สึกได้ถึงพละกำลังที่ถดถอยลงจากเมื่อวาน
เขาเข้าห้องน้ำและมองดูตัวเองในกระจก แต่แล้วเขาก็ต้องกรีดร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว

เขาจ้องมองเงาของตัวเองในกระจก
ใบหน้าของเขาในกระจกเป็นใบหน้าอันเหี่ยวย่นราวกับชายชราอายุ 80 ศีรษะของเขาล้านเลี่ยนมีเพียงเส้นผมหงอกขาวอยู่เพียงประปราย

…..ปรากฏการณ์พาราด็อกซ์ได้ขโมยกาลเวลาของสต๊อฟไปด้วยในที่สุด

4 ความเห็นบน “เซลล์แมนอนาคต”

  1. เกริ่นเรื่องได้โทนแบบ The Twilight Zone เลยครับ
    เดี๋ยวขอเวลาตั้งสติอ่านอีกที
    ขอบคุณครับ

    อ่านจบแล้วครับ
    เรื่องภาษาคงไม่ใช่ประเด็นของพี่วรากิจแล้ว
    ติดอยู่แค่รู้สึกว่า “ทันใดนั้น” จะมาบ่อยไปนิดเท่านั้นเองครับ

  2. เพิ่งดู looperมาเมื่อวานนี้เอง ย้อนอดีต ไปอนาคต เปลี่ยนอดีต เปลี่ยนอนาคต ผมยังไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ขอเวลาค้นคว้าแล้วจะนำมาแชร์ครับ

    สำหรับเรื่องนี้เป็นไอเดีย time travel ที่แปลก และน่าสนใจ ผมอยากรู้ ว่าถ้าวัตถุจากอนาคตหายไป ความคิด ความทรงจำที่เกิดขึ้นกับตัวละครจะเปลี่ยนไปไหม

    เรื่อง time travel ที่น่าสนใจอีกเรื่อง(ที่เขายกย่องกัน)ก็น่าจะเป็น primer ที่ผมดูไปรอบหนึ่งแล้วไม่เข้าใจซักเท่าไหร่ นอกจากเรื่องซับซ้อนแล้วยังต้องแปลศัพท์technicalอีก – -“

  3. ทฤษฎีผลกระทบจากการเดินทางย้อนเวลา(time travel)
    ผมแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่ม

    1. อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะจะมีผลกับอนาคตซึ่งอาจจะเกิด paradox
    กลุ่มนี้ได้แก่ The Time Machine, The Terminator(I)
    ตัวอย่าง paradox ที่นิยมยกมาคือ ถ้าคุณเดินทางไปในอดีตและฆ่าตัวคุณเองในวัยเด็ก นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้โตขึ้น แล้วใครเดินทางกลับไปฆ่าคุณ? (คุณตายไปแล้ว คุณจะเดินทางกลับไปฆ่าตัวคุณเองได้อย่างไร?)

    2. กลุ่มที่มองว่า อดีตเปลี่ยนแปลงได้ โดยเกิด time line ใหม่
    เช่น Back to the Future, The Terminator 2, เป็นต้น
    กลุ่มนี้จะเยอะเพราะมีอะไรให้เล่นมากกว่า และน่าสนุกกว่า
    (โดยส่วนตัวผมเรียก “time line ใหม่” ว่า “parallel universe” เพราะผมเชื่อว่า “time line เก่า”ก็จะยังเดินของมันต่อไป ครับ)

    ทั้งสองกลุ่มเป็นไปได้ทั้งคู่ เพราะยังไม่มีใครสร้าง time machine
    หรือถ้ามีแล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรับรู้การคงอยู่ของมัน
    เพราะทันทีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ไม่น่าจะมีใครรับรู้การเปลี่ยนแปลงนั้น
    😀

    ผมกำลังคิดทฤษฎีเรื่อง”เวลา”อีกแบบอยู่ครับ แต่ยังไม่ตกผลึกพอจะเขียนได้
    เดี๋ยวเขียนเสร็จเมื่อไรจะเอามาฝากให้อ่านกันครับ

    looper ยังไม่ได้ดูครับ
    primer ดูไม่จบครับ พลังยังไม่กล้าแข็งพอ 😀

  4. ในเรื่องนี้มีส่วนน่าคิดต่อหลายเรื่อง เช่น การนำพาคนป่วยใกล้ตายไปรักษาในโลกอนาคต การเอาเครื่องมืออนาคตมาขายให้บริษัทคู่แข่งของแอปเปิ้ลในปัจจุบัน การเอาของในอดีตไปขายให้นักสะสมในอนาคต การนำคนเบื่อโลกมาท่องอดีต

    พล็อตเรื่องตอนท้ายยังไม่สร้างความประหลาดใจต่างจากเรื่องที่เคยอ่านมาครับ

ใส่ความเห็น