เรื่องสั้น : H0m0Za913Nz

ค.ศ.2220 พื้นที่กักกันสิ่งมีชีวิต อาคารทดลองชีวะภาพ สวนรังสิต

เสียงสัญญาณเตือนภัยดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ปลุกเหล่านักวิทยาศาตร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการทดลองและการทำวิจัย จนสะดุ้งโหยง … ทั้งหมดถูกผลักดันออกจากอาคารอย่างรวดเร็ว ถูกทำความสะอาดโดยการฉีดสารเคมีตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด และถูกไล่กลับเคหะสถาน
อย่างไม่น่าเชื่อ ภายในเวลาเพียงห้านาทีอาคารก็ถูกปิดตายโดยสมบูรณ์ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ชุลมุนถึงเพียงนี้ กลับไม่มีการแถลงข่าวใดๆทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


“เห็นภาพไหม” สุรชาติ ร้องถาม ด้วยตำแหน่งนายทหารหน่วยรบพิเศษกว่าสามสิบปี ทำให้ประสาทของเขาตื่นตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะการที่เสี่ยงภัยขนาดนี้
เขากำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆเข้าสู่ประตูห้องแลปเบื้องหน้า ชุดปลอดเชื้อทำให้เขาลดความคล่องตัวลงไปอย่างมาก นายทหารอีกสองนายเคลื่อนตัวตามติดอยู่ด้านข้าง
ขณะที่ร่างที่เล็กกว่าในชุดปลอดเชื้อเช่นกัน เคลื่อนตัวตามมาทางด้านหลัง
“ไม่แน่ใจครับ … เห็นแต่เงาที่ด้านซ้ายมือ … แต่ไม่เห็นภาพ … ย้ำ … ไม่เห็นภาพ … ” อดิศักดิ์ รายงานเข้ามาจากห้องควบคุมห่างออกไป ภาพบนมอนิเตอร์จำนวนมากมายบนผนัง ในห้องควบคุมนั้นช่วยให้พวกเขาได้เปรียบในทางยุทธวิธี โดยมี สมัคร นายทหารอีกท่านหนึ่งร่วมสังเกตุการณ์อยู่ข้างๆ
แต่กล้องบางตัวถูกทำลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้องห้าตัวที่แลป๑เหลืออยู่เพียงตัวเดียวที่ยังใช้การได้ … จะว่าเป็นกับดักก็ไม่น่าจะใช่ … กะอีแค่ลิงทดลองตัวเดียวจะฉลาดได้ขนาดนั้นเชียว
“กังวาน … ทางซ้าย … ระวังตัวด้วย” สุรชาติออกคำสั่ง กังวานเคลื่อนที่ผ่านประตูแลปเข้าไปอย่างรวดเร็ว ปืนยาสลบถูกกำจนแน่น
“รายงานสภาพห้องด้วย” ดร.คาโรมานอฟ สั่งการผ่านวิทยุขณะเคลื่อนตัวตามติด สุรชาติ หล่อนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวพันธุศาสตร์ประจำอาคารนี้ และเป็นผู้ควบคุมปฏิบัติการนี้
“ไม่สามารถ รายงานได้ครับ กล้องตัวอื่นเสียหายหมด เหลืออยู่แค่ตัวเดียว” อดิศักดิ์ รายงาน
ดร.คาโรมานอฟ รู้สึกร่างกายแข็งทื่ออยู่หน้าทางเข้า ขณะที่สุรชาติ และ อนุวัตร กำลังจะเคลื่อนที่ผ่านเข้าประตูไป
“ถอยออกมา … มันเป็นกับดัก” หล่อนตะโกนก้อง … แต่สายเกินไป
ประกายไฟแวบขึ้นภายในห้อง ตามมาด้วยกลิ่นก๊าซฉุนเฉียวและระเบิดรุนแรง
ทั้งสามกระเด็นออกมาตามแรงปะทะ คงเหลือแต่กังวานที่ยังคงติดอยู่ภายใน … ไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้

“นี่มันบ้าอะไรกัน” สุรชาติสบถอย่างหัวเสีย เขาสูญเสียลูกทีมหนึ่งคนจากการตามล่าสัตว์ทดลองตัวหนึ่ง … นายทหารจากหน่วยรบพิเศษตายเพราะลิงที่หนีออกจากกรง … นี่มันบ้าฉิบหาย
“ฉันพยายามย้ำแค่ไหนแล้วว่ามันฉลาด … ” ดร.คาโรมานอฟ ลำเลิก หล่อนก็หัวเสียพอกันจากการถูกปฏิบัติด้วยท่าทีลำพองของ สุรชาติ “เป็นเพราะพวกคุณไม่ใส่ใจในข้อมูลต่างหาก”
“ก็ได้ … ผมขอรายละเอียดทั้งหมด … อีกครั้ง”

“ H0m0Za913Nz เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และได้รับการปนเปื้อนทางพันธุกรรมมากที่สุด จากช่วงปี 2020 อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ การขาดแคลนอาหาร และ มลพิษทางชีวะภาพ” ดร.คาโรมานอฟ เริ่ม
“ช่วงปฏิวัติ 2020” อนุวัตรพยักหน้าเสริม สุรชาติเหลือบมองอย่างไม่พอใจ
“ถูกต้อง … การดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิต ถูกกระทำอย่างแพร่หลายทั้งใน พืช และ สัตว์ … ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีในห้องทดลอง ปราศจากผลข้างเคียงและสะอาด … แต่พวกเขาลืมนึกถึงระบบเปิดอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ … ใช่แล้วสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายในธรรมชาติ ทำให้ไวรัสที่ใช้ในการดัดแปลงพันธุกรรมกลายพันธุอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ระบบเปิดนั้น … กว่าจะรู้ตัวถึงผลเสียที่ตามมาก็ล่วงเลยมาห้าสิบปีแล้ว … พวกเขาเล่นอยู่กับสิ่งที่ไม่รู้อย่างถ่องแท้ … พวกเขาพยายามทำปฏิกิริยาย้อนกลับเพื่อให้ได้ต้นรากของรหัสพันธุกรรม … แต่มันยิ่งเลวร้าย ไวรัส กลายพันธุ์นับหมื่นนับแสนล้านครั้งในช่วงเวลาสองปี … พวกเขาสูญเสียรหัสพันธุกรรมของตนเองไปโดยถาวร” หยุดเล็กน้อย “H0m0Za913Nz คือผลพวงของเหตุการณ์ในช่วงนั้น และนั่นทำให้ทักษะในการดำรงชีวิตในสภาพที่ลำเค็ญสูงมาก รวมถึงระดับความฉลาดของมัน”

“เห็นการเคลื่อนไหวครับ” อดิศักดิ์ รายงานเข้ามาน้ำเสียงตื่นเต้น
สุรชาติหันมอง ดร.คาโรมานอฟ หล่อนพยักหน้ายืนยัน “ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นในพื้นที่ทดลองนี้อีกแล้ว … ทุกอย่างถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว”

“ช่องทางที่ สิบสอง อีก ยี่สิบก้าว” อดิศักดิ์ ยืนยัน
“สมัคร ลงมาเดี๋ยวนี้ ผมต้องการให้คุณปิดล้อมจากอีกด้านหนึ่ง … อนุวัตร คุณก็ไปด้วย”
อนุวัตร พยักหน้า แล้ววิ่งไปอีกด้านหนึ่ง สมัครซึ่งอยู่กับอดิศักดิ์โดยตลอดออกจากห้องควบคุมอย่างรวดเร็ว
“ข้างหน้ามีอะไร” สุรชาติ ถามดร.คาโรมานอฟ
“แลปสิบห้า อุปกรณ์วัดความฉลาด ไม่มีสารเคมีอะไรที่น่ากังวล มีแต่เครื่องมือง่ายๆ”
“แลปสิบห้า ยืนยันครับ” อดิศักดิ์ รายงาน เขาเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้อง
สมัคร และ อนุวัตร อยู่ที่หน้าประตู สุรชาติ และ ดร.คาโรมานอฟ เข้ามาสมทบ
สุรชาติให้สัญญาณ อนุวัตร กระแทกประตูอย่างแรง เสียงดีดผึงของเส้นด้ายตามมาด้วยเสียงดีดกลับทึบๆของสปริง …
แท่งไม้เล็กแหลม พุ่งสวนออกมาอย่างรวดเร็ว อนุวัตรหงายหลังร้องเสียงหลง

“มันขึ้นทางฝ้าเพดานหนีไปแล้วครับ” อดิศักดิ์ รายงาน

“เป็นไงบ้าง” สุรชาติ ร้องถาม น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย แม้ว่าจะพยายามข่มความรู้สึกตื่นตกใจไว้เพียงใด
“ผม … ไม่เป็นไรครับ” อนุวัตร รายงาน
“ผมถูกยิง” สมัคร ละล่ำละลัก
ไม้ที่ถูกเหลาจนแหลมเสียบเข้าข้อต่อช่วงไหล่จนเกือบมิด
“เราต้องรีบพาเขาออกจากที่นี่” สุรชาติ สั่ง
“ไม่ทันแล้ว … เขาปนเปื้อนแล้ว” ดร.คาโรมานอฟ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อะไรนะ … หมายความว่ายังไง”
ไม่มีคำตอบ สมัครตัวซีดเผือก และแห้งกรอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่นะ … ผม … ไม่ … อยาก….” ไม่ทันขาดคำ ตัวเขาก็กลายเป็นผงแห้งๆเกลือนพื้น
“บ้าน่า … นี่มันบ้าอะไรกัน … พวกคุณทำการทดลองบ้าอะไรกันอยู่”
“ไม่ใช่เรา … การปฏิวัติที่ 2020 ต่างหาก … เนื้อเยื่อของ มัน มีส่วนประกอบของไวรัสจำนวนมหาศาล ซึ่งพร้อมจะเปลี่ยนแปลง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่สัมผัสมัน … แม้กระทั่งอากาศที่มันหายใจ ก็ส่งผ่านไวรัสนั้นไปทั่ว”
“ชุดผมขาด” อนุวัตร ร้องเสียงหลง รอยขาดเล็กๆที่ข้อศอกของเขาตอนเขาล้มลง
ปัง
โดยไม่มีการเกริ่นนำหรือการพูดแสดงความเสียใจ ดร.คาโรมานอฟ ลั่นไกเข้ากลางแสกหน้าของอนุวัตรทันที
“นี่มันบ้าอะไรกัน” สุรชาติ หันกลับ ยกปืนขึ้นเล็งมาทาง ดร.คาโรมานอฟ ตามปฏิกิริยาของทหาร แต่เขารั้งไว้ก่อนจะลั่นไก
“เราช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้ว … เขาหายใจเอามันเข้าไปแล้ว”
ร่างของอนุวัตรสั่นกระตุกอย่างรุนแรงก่อนแห้งสลายกลายเป็นฝุ่นผง
“ทำไมเราไม่ระเบิดที่นี่ให้ราบคาบ”
“แล้วเสี่ยงที่จะปล่อยให้อากาศฟุ้งกระจายออกสู่ภายนอก … คุณต้องบ้าแน่ๆที่คิดแบบนั้น”
“โอเค … มันฉลาด มันรู้จักเส้นทางทั้งหมดในนี้ … แล้วเราได้เปรียบอะไรมันบ้าง”
“ของเหลว” ดร.คาโรมานอฟ รำพึงขึ้นมาอย่างนึกได้ “น้ำ … มันต้องการ น้ำ ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก และ ถี่”
“มันอาจหาภาชนะบรรจุและแบกไปทั่ว”
“ใช่ … แต่ต้องมีเวลาหมด … มานี่ เรามีระบบเก็บน้ำแบบรวมศูนย์ … เราดักรอมันที่นั่นได้”

ผ่านไป สามสิบหกชั่วโมง… ไอ้บ้านั่นมันก็อึดพอตัวอยู่เหมือนกัน… สุรชาติ คิดขณะเห็นการเคลื่อนไหวพ้นขอบคอนกรีตเบื้องหน้า
มันค่อยๆโผล่ตัวขึ้นมาจากมุมห้อง เศษผ้าสองสามชิ้น ห่อตัวมันอย่างลวกๆ
“เดี๋ยวนี้” สุรชาติ ออกคำสั่ง แหขนาดใหญ่ถูกทิ้งลงมาจากข้างบน พันร่างของ H0m0Za913Nz เอาไว้จนดิ้นไม่หลุด มันดิ้นรนและร้องคำรามลั่นไม่เป็นภาษา
“แกมันแน่นัก” สุรชาติ เดินเข้าใกล้ “ฆ่าทหารตายไปสาม”
“ระวัง ” ดร.คาโรมานอฟ ร้องเสียงหลง
ไม่ทันเสียแล้ว H0m0Za913Nz ยื่นมือออกมาและคว้า ระยางของสุรชาติเอาไว้ได้ มันบิดแขนเต็มแรงจนระยางของเขาขาดกระจุย แต่สุรชาติยังมีปฏิกิริยาที่ดีพอ เขายิงปืนยาสลบออกไปสี่นัดซ้อนๆ เจ้า H0m0Za913Nz หมดสติไปในเวลาอันรวดเร็ว
ดวงตาของสุรชาติเบิกโพลง มองระยางที่ขาดหายไปของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก
“ผม ยัง … ไม่ … อยาก … ”
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อน ดร.คาโรมานอฟ จะลั่นไกฝังกระสุนเข้ากลางศีรษะของสุรชาติ

กว่า สี่สิบชั่วโมงแล้วที่ สัตบุตร หลบหนีออกจากที่คุมขัง … เขาโดนขังมาชั่วชีวิตก็ว่าได้ … ไอ้แมลงสาบแต่งตัวทุเรศ พวกนั้น เข้ามาทดสอบเขาอยู่ตลอดเวลา
เขารวบรวมอุปกรณ์และรอเวลาที่เหมาะสมจนถึงตอนนี้ … บ้าฉิบหาย ต้องโทษไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์น่าโง่อวดฉลาดพวกนั้น ที่ปล่อยให้การดัดแปลงพันธุกรรมกลายเป็นเรื่องปกติ … มนุษย์ เปลี่ยนแปลงไปมากช่วงร้อยปีที่ผ่านมา ไม่แค่นั้นซิ อาหารที่ถูกดัดแปลงเหล่านั้นส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆด้วย
แล้วไอ้แมลงสาบพวกนี้ก็ออกมา … ตัวใหญ่ขึ้น … ฉลาดขึ้น … จนมันครองโลก … โอเค … อาจจะไม่ฉลาดเท่าไหร่ แต่ปริมาณของมันก็ยากจะรับมือได้จริงๆ …
แต่เขาพบทางออกแล้ว สารเคมีบางอย่างในตัวเขาฆ่าพวกมันได้ … ขอเพียงเขารวบรวมเสบียงอีกเล็กน้อยเขาก็พร้อมจะออกไปถล่มพวกมันแล้ว

H0m0Za913Nz
Homo Zaqi3nz
Homo SapiEns
Homo Sapiens

จบ

2 ความเห็นบน “เรื่องสั้น : H0m0Za913Nz”

  1. เรื่องนี้ผมได้แรงบันดาลใจจาก
    เรื่อง “นาทีที่บิดเบือน” if the next minute never come
    ของคุณ ณ อนันต์
    ซึ่งตีพิมพ์ใน หนังสือรวมเรื่องสั้น nation book award ครั้งที่ 1
    เมืองไทยปี พ.ศ. 2600
    dare to dream the impossible
    ครับ

    ความยากส่วนหนึ่งน่าจะเป็น การที่ต้องพยายามเลี่ยงคำที่จะแสดงถึงความเป็นมนุษย์ เช่น หญิงสาว ชายหนุ่ม อะไรประมาณนั้น
    รวมถึงคำที่จะแสดงถึง ส่วนของร่างกาย เช่น มือ แขน เป็นต้น
    ถ้ามีส่วนใดหลุดรอดไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ (แจ้งไว้ด้วยก็ดีนะครับ ผมจะได้แก้ไขในโอกาสต่อๆไป ครับ)

  2. เดินเรื่องได้กระชับดีครับ มีการหักมุมที่น่าสนใจ การเขียนเรื่องสั้นไซ-ไฟให้สั้นขนาด2-3 หน้ากระดาษเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เรื่องนี้ทำได้ดีครับ

    ดาร์ธ เวเฟอร์

ใส่ความเห็น