เดอะลอสท์ทาวน์ นครที่สาบสูญ : Chale Magpie

I บุรุษสามล้อแดง แสงทำลายจากยานมอลลัส ผ่านระวางสินค้าเข้าปะทุ ถังพลาสมานับร้อยในนั้นให้ระเบิดต่อกันเป็นลูกโซ่ แรงระเบิดส่งให้ยานลำหนึ่งเสียหลักเข้าชนกับเครื่องยนต์เหนือแสง ทำให้ส่วนนั้นหายไปทั้งแถบ สัญญาณอพยพกังวานโหยหวนระคนกับเสียงแตกทำลาย ผลักดันให้ทุกคนวิ่งไปยังยานชูชีพโดยไม่คิดชีวิต เพียงอึดใจเดียวยานเล็กทั้งหมดก็จากไปโดยไม่มีใครทราบว่า ลูกเรือส่วนหนึ่ง ถูกทิ้งให้เผชิญชะตากรรมอยู่เบื้องหลัง เปลวพลาสมายังคงพุ่งกระจายออกไปตามรอยรั่วยานอย่างไม่หยุดยั้ง ฝูงสลัดมอลลัสไม่อาจรอดูผลงานของมันได้ เพราะภาพจากตาเท่ากำปั้นกับพวงสมองขนาดชามซุบของมันตีความได้ก็คือ แทนที่มันจะได้ ลิ้มรสอาหารที่ปล้นได้ กลับจะต้องพบกับยานที่กำลังจะระเบิด ถ้ายังอ้อยอิ่งอยู่ต่อไป ก็มีหวังได้ระเหยกลายเป็นไอไป โดยไม่มีโอกาสทิ้งซากให้ลูกๆมันกินเป็นแน่ แต่เมื่อพลาสมามอดดับลง ยาน โทรจัน 3

กลับเคลื่อนที่ไปได้ช้าๆโดยไม่อับปางลงอย่างที่คิด

ผนังด้านนอก เสียหาย 30%โครงสร้างหลักยังเสถียรอยู่ สนามพลังถึงจะอ่อนตัวลงบ้างแต่ยังอุ้มอากาศ และระบบยังชีพไว้ได้

เฮ…. (ตามด้วยเสียงปรบมือ) ความยินดีของลูกเรือ ส่งให้ กับตันโนกุระมีกำลังใจพูดต่อ

เตาปฏิกรณ์ดับ 1ลูก อีก 3 ลูก ยังทำงานได้ วิศวกรของเราคาดว่าจะซ่อมเสร็จใน 2 วัน

เฮ….. (ตามด้วยเสียงปรบมือยาวขึ้น)

ระบบขับเคลื่อนปรกติยังใช้งานได้

เฮ….. (ปรบมือยาวขึ้นกว่าเดิม )

แต่ระบบสื่อสารระยะไกลกับระบบขับเคลื่อนเหนือแสง เสียหายทั้งหมด โดยไม่สามารถซ่อมหรือสร้างใหม่ได้ และเนื่องจากลูกเรือส่วนใหญ่อพยพไปกับยานเล็กทั้งหมด เราจึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือใดๆ จนกว่าจะถึงสถานีใกล้สุดของสมาพันธ์ เสียงเฮเงียบลง

เออ…อ้า…ต้องใช้เวลานานเท่าไรครับ ลูกเรือนายหนึ่งถาม

จากการคำนวณหยาบๆ ก็ใช้เวลาราว 90 ปีนั่นแหละ

ฮื้อ…. ลูกเรือ 500 เดนตาย จับกลุ่มคุยกันทันทีเมื่อทราบข่าวร้าย หนุ่มสาวหลายคนส่งสายตาทอดสะพานให้กันอย่างโจ่งแจ้ง เพราะไหนๆต้องลอยเท้งเต้งตั้งในอวกาศ 90 ปีแล้ว จะอยู่เดี่ยวเปลี่ยวกายก็กระไรอยู่ ก่อนที่เหตุการณ์จะเลยเถิด กับตันก็ดันหลังผมขึ้นมาพูดต่อ

ผมให้ พันตรี ซูกอย วิศวกรคนเดียวที่เหลืออยู่ขึ้นมาแถลงมาตรการสำหรับการมีชีวิตรอดในสภาพที่เป็นอยู่นี้ ความที่ผมเป็นตัวแทนการอยู่รอดหรืออย่างไรไม่ทราบ พวกเขานั่งตาแป๋วราวกับฟังนิทาน ผมเองก็ดีใจที่เป็นเช่นนั้น จึงตั้งใจชี้แจงเต็มที่ แทบไม่น่าเชื่อเลยครับ ทุกคนกรูเข้ารวมตัวกันตั้งกลุ่มงานทันที่ที่ผมพูดเสร็จ แถมตั้งชื่อกลุ่มตัวเองอีกต่างหาก พวกเขาบอกว่า เพื่อจะได้เรียกง่ายและสร้างขวัญกำลังใจให้ฮึกเหิม ผมชำเลืองดูกัปตันตอนนั้น แกยิ้มแก้มแดงราวกับสาวๆเลยครับ…. ******************

กลุ่มวังค้างคาวปะผนังต่อจากกลุ่มทานตะวันที่ 1800 สำหรับในพื้นที่อันตรายจะใช้โพรบซ่อมบำรุงแทนที่ยังไม่มีกลุ่ม ให้เสริมเข้าไปในสองกลุ่มนี้ เพราะวิชา ซ่อมผนังและปะรูรั่ว 101 เป็นวิชาบังคับทุกสถาบัน ใครสอบไม่ผ่านก็ไม่มีสิทธิทำงานในอวกาศ ส่วนพวกลำเลียงวัสดุ จะมี มดดำ มดแดง และมดขยัน.ว่าแต่ทำไมมดมันเยอะจัง ผมทวนบันทึกที่ได้จาก เรือเอก ลู่ซิง นายทหารสื่อสารที่ถอดใจกับวิทยุเทคิออน จึงมาช่วยประสานงานให้ผม ซึ่งแกทำได้ดีมาก เพราะความจำเยี่ยมและพูดได้หลายภาษา

หัวหน้ามดฝากผมมาบอกต้นกลว่า งานรื้อถอนแบกหามควรทำสามกะ มดจะได้ไม่เพลียครับเออ อีกเรื่องหนึ่งครับ ลูกเรือ ยินดีให้รื้อผนังไททาเนียมตามห้องน้ำ ห้องส้วม เขาบอกว่ายอมประเจิดประเจ้อ แต่ผนังห้องนอนขอไว้ สำหรับความเป็นส่วนตัวครับ ระหว่างลู่ซิงตอบ ผมก็เทียบปริมาณความต้องการไททาเนียมจากคอมพิวเตอร์

ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ยกพื้นกับผนังห้องประชุมทั้งหมดไปแทนก็แล้วกัน …ยืนพูดบนลังสบู่ ก็ได้ไม่เห็นต้องมียกพื้น …ว่าแต่ว่าไอเดียใครล่ะที่ยอมถ่ายทุกข์โล่งโจ้งผมซัก

ผมเองครับ…ผมกับพวกเชื้อสายจีนยอมรับว่าทำได้ เพราะสมัยศตวรรษที่ 20 บรรพบุรุษเรามีส้วมรวม นารวม นั่งคอกถ่ายกันบนรางเดียวกัน มูลที่ได้ก็ต่อลงไปแปลงเกษตร ถ่ายไปดูนาไป เคยได้ยินไหมที่เขาเรียกว่า …นั่งถ่ายคู่ดูต้นหลิว…

ร้อยเอกลู่ซิง ตอบหน้าระรื่น

ไม่เคยเคยแต่ อึคนอื่นเหม็นเบื่อเราเหลือทน…อึของตนถึงจะเหม็นไม่เป็นไร

ระหว่างนั้นกัปตันเฒ่าก็เดินย่องแมวเข้ามาได้ยินที่ผมพูดพอดี ผมรู้สึกท้ายทอยแข็งๆยังไงไม่ถูก เมื่อโทโยดะ โนกุระ เดินเข้ามาหาตรงหน้า ลางสังหรณ์บอกว่าจะมีงานให้ทำเพิ่มอีก แกยืนชิดเท้า ชี้นิ้วขึ้น

การ กิน นอน ถ่าย และขยายเผ่าพันธุ์ ล้วนเป็นเรื่องปรกติของชีวิต แต่ มนุษย์ควรเดินสายกลาง หากหมกมุ่นเรื่องใดมากไป ชีวิตจะเสื่อมถอยเร็ว

อ้า…ปรัชญาพุทธหรือครับ ผมถาม

จะเรียกว่าปรัชญาธรรมชาติก็ได้ เพราะหลายศาสนามาจากธรรมชาติ ลองคิดนอกกล่องดู …เราเคยชินแต่ส้วมไททาเนียม ลองหาวัสดุทดแทนก็ได้อย่างเช่นพลาสติก หรือเรซิ่น ห้องน้ำรวมถ้าไม่เป็นฝักบัวโซนิค แต่เป็นอ่างอาบน้ำจากระบบระบายความร้อนก็ไม่เลว นั่งแช่กันไป คุยกันไปคลายเครียดได้อีกต่างหาก

แกพูดแถมหลิ่วตาให้ข้างหนึ่ง…เอ๊ะความคิดของกัปตันไม่เลว ถังบรรจุไดทีเรี่ยมเปล่ามีเยอะแยะ จับมาผ่าทำอ่างน้ำรวม … ต่อท่อเข้าเครื่องปรับอากาศ คนต้องการอากาศเย็นก็ถ่ายความร้อนให้โรงอาบ คนอาบน้ำก็ถ่ายความเย็นให้คนในเคบิน ด้านหนึ่งก็ติดกับแปลงเกษตรที่ถอดฝาไปปะทำผนังยานแล้ว….อาบน้ำไปดูต้นไม้ไป…ต้นไม้ต้องการไอน้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ คนต้องการออกซิเจน..อา…โอ….

ว่าแต่ว่าผมไม่ได้ตั้งใจมาคุยเรื่องส้วมหรอก…” เสียงกัปตันปลุกผมจากห้วงความคิด

ผมชื่นชมคุณทั้งสองในการช่วยกันแก้วิกฤตเป็นโอกาส ตอนนี้งานซ่อมก็เข้าระบบแล้ว ความที่คุณ ซูกอย ชำนาญในการซ่อมนั่นประกอบนี่ ฉะนั้นให้คุณรับงานคลังสินค้าไปด้วย เพราะฝ่ายคลังสินค้าสละยานหนีไปหมด จึงต้องมีคนที่สามารถรวบรวมของที่ ขาด-ตก-หก-ชำรุด มาสร้างความหวังใหม่ให้พวกเรามีทางพ้นจากเวิ้งระกำนี้ไปได้ ส่วนคุณ ลู่ซิง คุณเก่งภาษากับการกล่อมผู้คน คุณก็ควบงานวิทยุชุมชนแทนคนเก่าไปด้วย

คนเก่า สละยานออกไปเหมือนกันไช่ไหมครับ ลู่ซิง สอดขึ้นด้วยความอยากรู้

เปล่า ถูกยิงตายคาเก้าอี้ออกอากาศตอนมอลลัสโจมตีคราวที่แล้ว

………..

เพียงเท่านี้ วงสนทนาของเราก็แตกลง ผมปรึกษารายละเอียดกับกัปตันสองสามประโยคลูซิงจากไป พร้อมกับขอเก้าอี้ออกอากาศตัวใหม่ โดยให้เหตุผลว่า ถึงจะเป็นศตวรรษที่ 25 แต่ชาวจีนก็ยังติดธรรมเนียมที่ไม่ใช้ของคนที่ตายแล้ว เราทั้งคู่จากกันไปพักใหญ่ เพราะต่างมีงานเพิ่มขึ้น ผมย้ายสำนักมาที่ระวางสินค้าท้ายยาน ดัดแปลงแท่นยกสัมภาระที่ถูกยิงหายไปครึ่งหนึ่ง กับล้ออีกสามลูกมาเป็นไซด์คาร์ นำเก้าอี้ที่เจ้าของถูกยิงตายมาทำที่นั่งขับขับเพื่อปะชดความเชื่อโชคลางของลูซิง ความจริงเก้าอี้รูขนาดชามข้าวตรงกลาง ก็นั่งเย็นสบายดี ซ้ำรอยถูกยิงก็กลมได้เหมาะเจาะ เช็ดคราบเลือดออกสักหน่อย ก็ดูดีราวกับงานช่างฝีมือ ผมขับเจ้าไซด์คาร์นี้ตระเวนไปทั่วยานเพื่อเก็บ

อะไรก็ได้..ที่จะช่วยให้พ้นจากเวิ้งระกำ ตามที่กัปตันกล่าวถึง ทีนี้โกดังผมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆครับ บางครั้งลูกเรือสาวๆก็ขนของเก่ามากองให้ถึงที่ พร้อมกับตั้งฉายาผมว่า มีสเตอร์เร็ดไทสเคิล ผมเองก็ไม่เข้าใจความหมายนัก ไอ้ยานขนของมันมีสามล้อก็จริง แต่สีกระดำกระด่าง ไม่เห็นจะแดงสักหน่อย

มันเป็นสำนวนของชนชาติหนึ่ง ที่เกือบล้มละลายในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 …สาเหตุจาก บริโภคนิยม ไม่รู้จักพอเพียง พอฟองสบู่แตก มีคนเป็นหนี้กันทั้งประเทศ คนระดับรากหญ้าจึงหันมาเลี้ยงชีพด้วยการใช้สามล้อแดงเก็บขยะขาย

ลูซิงอธิบายที่มาของคำให้ผม ผม ฮื่อ ฮา ไปตามเรื่อง ขณะเดียวกันก็ถามความคืบหน้าของวิทยุชุมชน ซึ่งเขาตอบว่า ได้แบ่งเวลาให้เรือตรี หลินปอ ผู้ช่วยฝ่ายสื่อสาร มาเป็นผู้ประกาศ เนื่องจากหน้าตาดี เสียงก็ไพเราะ ออกอากาศไม่กี่วัน ก็มีคนติดงอมแงม หลังจากนั้นเขาก็มีอาสามาช่วยอีกหลายคน จึงมีเวลามาหาผม พวกเราช่วยกันประกอบหุ่นซ่อมบำรุงจากส่วนผสมของหุ่นบริการที่มีแต่หัวสี่เหลี่ยม แขนกล(หนวด)จากแท่นซ่อมพาหนะและล้อเลื่อนส่วนบุคคลที่เหลือแต่ช่วงล่าง พอเปิดสวิชต์ มันก้มดูสารรูปตัวเองแล้วรีบเปิดพลังงานทันที

ท่าทางมันจะทำใจกับสารรูปตัว%

ใส่ความเห็น