โลกใบใหม่ หมายเลข X…ตอนที่ 11

แรงระเบิดของเบทิวเดียม 113 ทำให้ยานจู่โจมของทีมบีโคลงตัว ส่วนยึดติดสนิทกับผนังยานงูใหญ่เริ่มหลุด อากาศถูกดูดออกอย่างรวดเร็ว เอ็มค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นยืน ตายังจ้องเขม็งที่ซากแห่งความภาคภูมิใจของมนุษย์ บัดนี้ได้แตกสลาย กลายเป็นชิ้นส่วนเล็กน้อยลอยคว้างไปทั่ว

เคลปตะโกนเรียกเข้ามา ช้าไปกว่านี้อวกาศอาจดูดเอ็มออกไป ช่องว่างตรงรอยต่อกับยานงูใหญ่เปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

หัวหน้าทหารเริ่มวิ่ง กำหมัดแน่น กัดฟันกรอด โมโหอย่างขีดสุด ใบหน้าของผู้จากไปลอยเข้ามาในห้วงความโศกเศร้า

นึกถึงกัปตัน

นึกถึงณอห์น

นึกถึงเพื่อนนักเดินทางคนอื่น

และ…คิดถึงแอลลี่

เอ็มกระโดดเข้ายานจู่โจมแบบหวุดหวิด เคลปกดปุ่มปิดประตูยานทันที

“รีบออกไปจากที่นี่” เอ็มตะโกนสั่ง

นิโก้เข้ามาช่วยพยุง

“สองคนนั่นแอบขึ้นยานมาด้วย” นิโก้บอก แล้วบุ้ยปากไปตรงหน้าห้องสัมภาระ

ทั้งสองยืนตัวแข็ง ณอห์นมองมาที่หัวหน้าทหารแต่ไม่พูดอะไร ส่วนแอลลี่…เธอกำลังเสียใจ

เอ็มปรี่เข้าหาแอลลี่ทันที ตอนนี้เขาจะข่มไม่ให้ตัวเองแสดงออกว่าดีใจแค่ไหนที่เธอรอดมา แม้จะยอมรับเมื่อได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ มันทำให้หัวจิตหัวใจเขาดีขึ้น แต่คำถามที่ตามมาอีกพรวนใหญ่ เมื่อแอลลี่รอด เมื่อเธอหนีมากับยานจู่โจมนี้ได้ กำลังตราหน้าเธอว่าเป็น…คนโกหก

“ทำไมยานของเคอร์คิเจียนถึงมีทูทูโพโบติดอยู่ด้วย” น้ำเสียงดุดัน เป็นครั้งแรกที่เขาใช้น้ำเสียงทหารกับเธอ “แอลลี่ บอกผมมา”

น้ำใสๆ เอ่ออยู่ตรงขอบตาหญิงสาว  เธอแสร้งทำเป็นกลัวและโศกเศร้าหรือเปล่า…เอ็มเริ่มคิด

“ฉันไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ” แอลลี่ส่ายหน้า เอ็มตรงเข้าบีบไหล่ เขย่าเบาๆ

“บอกผมมาแอลลี่” เอ็มคาดคั้น เขย่าแรงขึ้น “บอกผมมา”

แอลลี่ทรุดตัวลงนั่ง เธอเสียใจ “ฉันไม่รู้…”

เอ็มผละออก มองดูเธอร้องไห้ เขาเองก็เสียใจ…

…ยังไม่ใช่เวลาหาคำตอบ… เขาเตือนตัวเอง มองทั้งสองคนที่แอบขึ้นยานสลับกันไป

“คุณทั้งสองเข้าไปนั่งด้านใน” เอ็มสั่ง ณอห์นค่อยๆ พยุงแอลลี่ขึ้น

“เอ็ม!!!”  เจ้าหน้าที่ขับยานตะโกนเรียกเข้ามา

หัวหน้าทหารวิ่งพรวดไปที่ส่วนควบคุมยาน เจ้าหน้าที่ยานกำลังดูภาพในจอกระจก มีภาพยานงูใหญ่ปรากฎขึ้น

“ยานเคอร์คิเจียนมันวนกลับมา” เจ้าหน้าที่ยานหันหน้ามาบอก

…ทำยังไงดี… เอ็มถามตัวเองในใจ

“เชโก้” เอ็มเรียกทหารหนุ่มจากยานทีมเอ ฝั่งนั้นขานรับ

“แยกกันไปคนละทาง” เอ็มสั่ง

“คุณกำลังจะทำอะไร” เจ้าหน้าที่ยานถามขึ้นทันทีอย่างสงสัย

ศักยภาพของยานจู่โจมไม่ดีพอจะต่อต้านยานเคอร์คิเจียนไหว และยิ่งกับยานที่ติดทูทูโพโบเข้าไปอีกด้วย โอกาสชนะมันน้อยมาก

“เล่นกับมันหน่อย” เอ็มตอบ

**************************************************

“พวกมันแยกออกไปคนละฝั่ง” รองนายพลบาธเอ่ยขึ้น

เซอุสกำลังยืนสั่งการอยู่บนแท่นควบคุม ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ยานงูใหญ่ลำนี้เพิ่งจัดการยานเบทิวเดียม 113 เซอุสดูพอใจมาก เขาหัวเราะเสียงดัง สบถอย่างสะใจ และร้องสาบแช่งมนุษย์ราวกับเสียสติ

“ผู้หญิงอยู่ที่ยานลำไหน” เซอุสถาม

บาธเดินลงไปดูที่จอภาพด้านล่าง แล้วตอบกลับ

“มีผู้หญิงอยู่ทั้งสองลำ เราไม่แน่ใจว่าเธออยู่ลำไหน”

เซอุสกำหมัดแน่น มองยานจู่โจมของมนุษย์ทางฝั่งขวา แล้วมองยานทางฝั่งซ้าย

“มันจะเข้าโจมตีทั้งสองด้าน” นายพลแห่งยานงูใหญ่เอ่ย “อยู่นิ่งจะตกเป็นเป้า”

เขามองไปที่ยานทางฝั่งขวาอีกรอบ

…กำจัดไปหนึ่ง ก็เหลือแค่หนึ่งสินะ… เขาคิด

“ทำลายยานมนุษย์ทางฝั่งขวานั่นซะ!!!” เซอุสตะโกนสั่ง เสียงดังลั่น

“ไม่ได้นะครับ” บาธแย้งกลับมา “เราไม่รู้ว่าเธออยู่ยานลำไหน”

“งั้นก็ยิงทั้งสองลำ” เซอุแสยะยิ้ม “จะได้จบๆ ไปเลย”

“แต่เราตกลงกับพันธมิตรเอาไว้แล้ว” บาธพยายามอธิบาย

“นี่คือสงครามระหว่างเคอร์คิเจียนกับมนุษย์ ไม่ใช่สงครามของพวกหัวหดที่ไหน” เซอุสหันมามองที่รองนายพลบาธ แล้วเค้นเสียงพูดอย่างน่ากลัวออกไป “ทำลายพวกมันซะ”

บาธจำใจยอม เขาสั่งการต่อกับทหารเคอร์คิเจียนตรงแผงควบคุมด้านหน้า

“ทำลาย!!!” เซอุสตะโกนดังลั่น

แสงสีฟ้าถูกปล่อยออกไป

***************************************************

“มันโจมตีเราแล้ว” เจ้าหน้าที่ยานทีมเอตะโกนบอก เขาบังคับยานพุ่งตรง แล้วโฉบหลบทางซ้าย ก่อนที่แสงสีฟ้าจะผ่านไปแบบหวุดหวิด

“โจมตีกลับไป” เอ็มนั่งอยู่ข้างๆ ร้องสั่ง

“เชโก้” เอ็มเอ่ยเรียกทหารคู่ใจผ่านเครื่องมือสื่อสาร

“ครับ”

“ระดมยิงชุดใหญ่เลย”

ยานจู่โจมของมนุษย์ทั้งสองลำรัวท่อนแสงโจมตีใส่ยานเคอร์คิเจียน ยานทีมเอเชิดหัวขึ้น ส่วนยานทีมบีมุดลง เจ้าหน้าที่ยานรู้ว่าใต้ท้องยานไม่ใช่จุดอ่อนของยานมนุษย์ฝ่ายเดียว ลอดไปด้านล่าง  อย่างน้อยอาจทำให้มันเจ็บเพราะได้แผลใหญ่อยู่บ้าง

“เชโก้ล่อมันไป” เอ็มตะโกน

ยานเคอร์คิเจียนทำทีหลงกล แต่มันกลับลำมุดยานลงตาม พวกมันฉลาด ยานงูใหญ่กำลังประจัญหน้ากับยานจู่โจมของมนุษย์

แสงสีฟ้าพุ่งออกมาหลายชุด เจ้าหน้าที่ยานพยายามสุดความสามารถ โยกหลบซ้าย-ขวา จนภายในยานแกว่งไปหมด

ท้ายที่สุดก็เกินต้านทาน ยานพลาดโดนแสงตรงส่วนห้องสัมภาระ สัญญาณเตือนดังขึ้น

เอ็มรวบรวมสติ รายละเอียดเล็กๆ เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ทุกวันที่เขาหมั่นฝึกฝนสติเอาไว้ ก็เพื่อใช้ในเวลาขับขันที่สุดมาเยือน เมื่อกุญแจของปัญหารีบเล็กลงเพราะความสับสัน มีเพียงสติเท่านั้นที่จะควานหากุญแจเจอ

“ขอดูภาพม่านที่ผมสั่งให้บันทึกไว้” เอ็มตะโกนแข่งกับสัญญาณเตือนภัย “เดี๋ยวนี้”

เจ้าหน้าที่ยานกดนิ้วลงบนจอภาพ ชั่วครู่ภาพม่านปรากฏขึ้นมา

“ขยายเข้าไป” เอ็มบอก

“ตรงนี้” หัวหน้าทหารชี้ “ขยายให้สุด”

ภาพปริศนาปรากฏขึ้นทันที เอ็มพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ยาน อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ทั้งคู่รู้กันแล้ว ยานเบี่ยงออกซ้ายทันที-แล้วตรงลิ่วเข้าสู่ม่านอวกาศ

ยานทีมบีอยู่ในสภาพเสียหายหนัก ความตายคือทางเลือกเดียวในห้วงอวกาศนี้ เอ็มรู้ว่าวิธีนี้มันเสี่ยงมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะผ่านม่านนี้ได้หรือไม่ เหตุผลเดียวคือความเชื่อมั่น สิ่งนี้เท่านั้นที่ผลักดันให้เขาสู้มาได้จนถึงจุดนี้

“เชโก้” เอ็มเรียกทหารคู่ใจผ่านเครื่องมือสื่อสารอีกครั้ง

“ผมจะเสี่ยงเข้าไปในม่าน”

อีกฝ่ายทักท้วง เชโก้ไม่เห็นด้วย

“ไม่มีทางเลือกแล้ว ยานเสียหายหนัก เราต้องเสี่ยง” เอ็มบอก

เขาหันกลับมามองเพื่อนร่วมทางทุกคน  นิโก้ยึดที่วางแขนแน่น นิล่านั่งหลับตานิ่ง เคลปพยักหน้าให้เขาเหมือนบอกว่าเชื่อใจ ณอร์นกำลังภาวนา ส่วนแอลลี่…น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว เธอดูเข้มแข็งขึ้น…

“ทุกคนจะไม่เป็นอะไร” เอ็มตะโกน “เราจะต้องปลอดภัย”

*********************************************

เซอุสตะลึง เขาแทบไม่อยากเชื่อว่ายานของมนุษย์จะเลือกเสี่ยงเข้าไปในม่านที่ตนไม่รู้จัก และกำลังตรงดิ่งเข้าใกล้เรื่อยๆ

บาธสั่งชะลอความเร็วของยานลง มันเสี่ยงเกินไปที่จะพุ่งเข้าหาม่านแบบสุ่มสี่สุ่มห้า พันธมิตรเท่านั้นที่มีสิทธิ์อนุญาติให้ใครผ่านเข้าออกได้ และกับสถานการณ์ตอนนี้

เมื่อเซอุสขัดคำสั่งพันธมิตรไปแล้ว เท่ากับรับรองไม่ได้ว่ายานงูใหญ่ลำนี้ จะได้รับสิทธิ์ให้กลับเข้าไปได้อีก

ยานมนุษย์อีกลำพุ่งโฉบผ่านเหนือยานงูใหญ่ไป บาธมองนิ่ง พวกมันกำลังพากันไปตาย…รองนายพลคิด

“ตามเข้าไปทำลายมัน” เซอุสร้องสั่ง

บาธไม่เห็นด้วย ตัดสินใจเดินเข้าหา

“เราจะพากันตายทั้งลำ”

เซอุสไม่ฟัง “ยิงทูทูเข้าไป”

บาธเดินไปขวางด้านหน้า เอ่ยขอร้อง

“ท่านครับ เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนี้”

เซอุสไม่สนใจ เขาบ้าเลือดไปแล้ว “เดินหน้าเต็มกำลัง”

บาธถอยออก ส่ายหัวแสดงความไม่เห็นด้วย วาระสุดท้ายของยานมนุษย์ทั้งสองลำกำลังแสดงอยู่เบื้องหน้า เซอุสแสยะยิ้มอย่างพอใจ  ม่านยังคงปิดอยู่ อย่างดีที่สุดคือพุ่งชน และระเบิดสลายไป

ทว่า…ม่านกลับเปิดออก คำถามมากมายพรั่งพรูเข้าใส่บาธและเซอุสทันที

“พันธมิตรเรายอมเปิดม่านให้พวกมัน” บาธหันหน้ามาบอก เซอุสเริ่มสบถ ตะโกนอย่างเดือดดาล

ยานมนุษย์ลำที่โดนยิงพุ่งเข้าไปก่อน อีกลำตามเข้าไป

และ…ม่านปิดตัวลง

การแสดงปิดฉากเหนือความคาดหมายของเซอุส เขาหายใจเสียงดัง ความเครียดโถมเข้าใส่ทุกทิศ

ยานงูใหญ่พุ่งด้วยความเร็วตรงเข้าหาม่าน หากทิศทางยังคงเดิม ไม่กี่นาทีต่อจากนี้ยานจะพุ่งชนม่านดังกล่าว และเคอร์คิเจียนทุกตัวบนยานลำนี้จะพากันตายทั้งหมด ดังนั้นวาระสุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจแล้ว

“เชิดหัวเต็มกำลัง” บาธตัดสินใจตะโกน

ส่วนเซอุส…โกรธแค้นจนร้องอย่างบ้าคลั่ง

หนึ่งความเห็นบน “โลกใบใหม่ หมายเลข X…ตอนที่ 11”

  1. นึกว่าแอลลี่จะเสร็จไปพร้อมกับเบดิวเทียมซะแล้ว ไม่แปลกเลยที่พระเอกจะสงสัย เพราะเธอทำเหมือนจะรู้ว่าเซอุสมีทูทูโพโบ แต่อันที่จริงมันก็เป็นแค่ความบังเอิญได้เหมือนกัน แต่ก็เสียดายยานกับกัปตันนะครับ

    คราวนี้มีปริศนาเรื่องม่านกับ ‘พันธมิตร’ เพิ่มเข้ามา แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมสงสัยด็อกเตอร์ที่มากับยานพ่อนางเอกในฉากแรกมากเลยครับ

    ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ครั้งที่แล้วไม่ได้เม้น เพราะจะให้คนเดียวตามอวยไปซะทุกตอนมันก็แปลกๆ น่ะครับ เลยเว้นช่วงบ้าง จะติดตามอ่านต่อไปนะครับ

ใส่ความเห็น