จักรกฤษณ์ยืนอย่างสงบนิ่งอยู่บนรถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เขากำลังเดินทางไปพบผู้ว่าจ้างของเขาโดยเลือกที่จะใช้เส้นทางซ่อมบำรุงที่ปราศจากแสงสี เพราะการใช้เส้นทางหลักในเมืองทำให้เขามีอาการเวียนศรีษะอยู่เสมอด้วยภาพทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลาในระหว่างการเดินทาง เดี๋ยวก็เป็นทิวทัศน์ชายหาด เดี๋ยวก็เป็นภาพจากตึกสูง เดี๋ยวกลางวัน เดี๋ยวกลางคืน คงเนื่องจากความโหยหาธรรมชาติในตัวทุกผู้คน แต่เนื่องจากขนาดของอาคารที่ใหญ่โตกินบริเวณหลายพัันตารางกิโลเมตร ย่อมไม่สามารถให้พื้นที่สำหรับมุมมองภายนอกได้อีกแล้ว ทุกคนจึงต่างปรุงแต่ง ทิวทัศน์ มุมมอง ตามแต่ใจปรารถนา แต่นั่นคื่อสิ่งที่ทำให้คนที่ต้องเดินทางผ่านหลายๆสถานที่เกิดอาการหลงทิศ หลงทาง และคลื่นเหียนได้อย่างน่ารำคาญ มันเป็นอาการสามัญจนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า อาการเมาตึก และ จักรกฤษณ์ก็ไม่อยากให้เกิดอาการแบบนั้นในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เขาต้องการใช้ความคิด
รถไฟฟ้าเคลื่อนผ่านผนังสีทึบไปตลอดเส้นทาง ระหว่างที่จักรกฤษณ์หวนรำลึกถึงตอนที่พบเจ้าของงานนี้เป็นครั้งแรก
…
“สามีของฉันหายตัวไป” หล่อนกล่าว…มีน้ำเสีงแหบพร่าเล็กๆในเสียงนั้น จักรกฤษณ์รู้สึกได้ถึงความไม่แน่ใจบางอย่าง หลังจากการทักทายกับหล่อนตามมารยาทของนักสืบทั่วไป “ทั้งหมดนี่คือข้อมูลของเขา” หล่อนยื่นแผ่นข้อมูลบางขนาดนามบัตร
จักรกฤษณ์วางมันลงบนโต๊ะ แล้วภาพแฟ้มข้อมูลทั้งหมด ก็แสดงขึ้นบนผนังห้องเบื้องหน้า
บุคคลที่หายตัวไป คือ ดร.วัชรพล เคฟเค่น ศารตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ควอนตัมฟิสิกส์(quantum physic) ที่มีชื่อเสียง
“มีอะไรที่ผมควรรู้เป็นพิเศษไหม” จักรกฤษณ์เอ่ยถามขณะเคลื่อนมือไปบนโต๊ะ พลิกแฟ้มประวัติบนผนังไปมา “งานวิจัยที่กำลังทำอยู่, คู่แข่ง ศัตรู หรือ” เขาหยุดเล็กน้อยเหลือบมองหล่อน “ชู้รัก”
“ไม่มี” โดยปราศจากการลังเลหรือชะงักงัน ไม่แม้เพียงหนึ่งส่วนล้านของวินาที … อาจจะเร็วเกินไปเสียด้วยซ้ำ และดูเหมือนหล่อนเองก็จะจับอาการสงสัยนั้นได้ด้วยเช่นกัน “ถ้าคุณดูภาพที่ถูกบันทึกแล้วคุณจะเข้าใจ”
ภาพที่เขาเห็นยิ่งทำให้เขามึนงงยิ่งขึ้นไปอีก
มันเป็นภาพที่ถูกบันทึกโดยระบบ MAIDS ซึ่งแสดงภาพของ ดร.วัชรพลในห้องของเขา ขณะกำลังสาละวนกับงานเอกสารบนโต๊ะ ภาพแตกพร่าไปสักเสี้ยววินาทีเห็นจะได้ และหลังจากนั้นภาพทุกอย่างก็กลับคืนมา …
ทุกอย่าง ยกเว้น ดร.วัชรพล
ประเด็นแรกจึงไม่ใช่ว่า ใคร ทำไม หรือ จะเป็นตายร้ายดีประการได
ประเด็นแรกคือ “อย่างไร”
อ่านเพิ่มเติม “รอยวิบัติ (trace)”