องก์ที่ ๑ แผนเปลี่ยนโลก [ ตอนที่ ๕ : เมธา ]

วิทยา พาร่างอันสะบักสะบอบ มาถึงที่ว่าการจนได้

หลังจากกระโดดระหว่าง ยานพาหนะ ที่ความสูงเกือบ หกสิบเมตรเหนือพื้นดิน(ประมาณตึก สิบ ชั้น) หลาย สิบ ครั้ง
ปะทะเข้ากับผนังโลหะของอาคาร ห้า-หก ครั้ง
กระโดดเกาะ และวิ่งอยู่บนยานพาหนะลอยฟ้า เจ็ด-แปด คัน (ย่อมต้องโดน ก่นด่า เป็น ธรรมดา)
เกือบตกลงมาคอหัก ร่วม ร้อย ครั้ง
โดนกลุ่มคนขว้างปาสิ่งของเข้าใส่อีก นับครั้งไม่ถ้วน
วิทยา เข้าใจเลยว่า มนุษย์ รักผืนดินที่เหยียบอยู่มากน้อยเพียงไร

ลานหน้าอาคารที่ว่าการ คราคร่ำไปด้วย นักข่าวและผู้แถลงการณ์
บันไดหลายสิบขั้นด้านหน้าของอาคารถูกดัดแปลงเป็นที่แถลงข่าว ชั่วคราวของที่ว่าการ
เพราะไม่สามารถบรรจุคนทั้งหมดเข้าไปภายในอาคารได้

“เรายังไม่มีรายงานที่แน่ชัดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” ท่านผู้ว่า ตะโกนเสียงแหบแห้ง เพื่อพยายาม ควบคุมสถานะการณ์เอาไว้
แข่งกับเสียงตะโกน เซงแซ่ ของนักข่าว
วิทยา เข้าใจว่า นี่พึ่งจะเริ่มการแถลงการณ์ เท่านั้น แต่ท่านผู้ว่า ได้สูญเสียเสียงพูดของท่านไปเรียบร้อยแล้ว

“ตกลงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรครับ”
“พอจะให้กรอบระยะเวลาทำงานได้หรือไม่คะ”
“ท่านมีมาตรการรองรับความปลอดภัยในการเดินทาง และความเสียหายที่เกิดขึ้นไหมครับ”
“เป็นการก่อการร้ายหรือเปล่าครับ” (เป็นคำถามที่เก่ามากเพราะกระบวนการก่อการร้ายได้หายไปกว่า ร้อย ปี แล้ว)
“เป็นการ ฆาตกรรม หรือ เป็นความผิดพลาดของระบบ ครับ”
“หน่วยงานการขนส่งจะรับผิดชอบอย่างไรบ้างคะ”
“ระบบ จะสามารถ เปิดให้ บริการได้อีกเมื่อไร คะ”
“ท่าน ดร. มีคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ”
“ท่าน ดร. จะรับผิดชอบต่อ เหตุการณ์ นี้อย่างไรบ้างครับ”
ฯลฯ

ท่านผู้ว่า มีท่าทีสับสนอย่างเห็นได้ชัด ท่านยกมือขึ้นปาดเหงื่ออย่างลืมตัว ทั้งที่ขณะนั้น อุณหภูมิ อยู่ที่ ๑๙ องศาเซลเซียส

ชายร่างท้วมสูงใหญ่ ก้าวขึ้นมาที่แท่นแถลงข่าวอย่างเสียมิได้
ถึงแม้เขาจะเป็นคนตัวใหญ่ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน กลับดูกลมกลืนกับแถวพนักงานของรัฐ อย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งตัวรูปร่างน่าจะเป็นที่สังเกตุได้โดยง่ายด้วยขนาดของเขา แต่กลับดูไม่เป็นจุดสนใจใดๆเลยได้อย่างประหลาด
อาจจะเป็นเพราะ การแต่งกายของเขาที่ดูกลมกลืนหายไปกับฉากหลังของบริเวณ
“ขณะนี้ ทางการยังไม่พบพยานหลักฐานใดๆที่จะชี้ให้เห็นว่า เป็นการก่อการร้าย ” เขาแทรกตัวขึ้นที่ เครื่องขยายเสียงอย่างนิ่มนวล
ถึงแม้จะเป็นการกระทำที่กร้าวร้าวและอาจจะเกินหน้าเกินตา ท่านผู้ว่า แต่ กลับดู ให้เกิยรติและนอบน้อมอย่างประหลาด
ท่านผู็ว่า กลับมีท่าที ยินดีเสียด้วยซ้ำ ที่เขาสามารถ หลุดพ้น สถานะการณ์ นี้มาได้
“และยังไม่พบ หลักฐานใดๆที่แสดงถึงการ ฆาตกรรม” เสียงอัน นุ่มนวล ดังกังวาล สยบความบ้าคลั่งของฝูงชนลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ขณะเดียวกัน การเดินทาง ด้วยเครื่อง ปริวรรตมวลสาร ก็ได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยมาตลอดระยะเวลา ร้อยปีที่ผ่านมา” เขาหยุดเล็กน้อย
“ยังไม่พบความบกพร่องของการทำงานจากระบบ แม้แต่น้อย … กระบวนการทดสอบ ได้ยืนยันแล้ว …
นี่ถือเป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับพวกเราทุกคน แต่เราจำเป็นต้อง ยืนยันปัญหาให้ชัดแจ้ง ก่อนจะดำเนินการใดๆ ต่อไป เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน”
เขาหยุดสูดลมหายใจ
“ถึงจุดนี้ ทางการจึงขอให้ทุกท่านหยุดการเดินทางที่ไม่จำเป็นทั้งหมดเอาไว้ก่อน
โดยการติดต่อผ่านการประชุมทางไกล การเดินทางที่จำเป็น ก็จำเป็นต้องใช้ ยานพาหนะแบบเก่าไปก่อน
ทางเราได้ประสานงานกับ ระบบขนส่งอื่นๆแล้ว ซึ่งพวกเขายินดีจะเพิ่ม รอบการขนส่งให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
ราคาค่าโดยสาร จะเป็นราคาควบคุม ซึ่งทาง รัฐบาล และ เอกชนจะร่วมกันประกาศในลำดับ ต่อไป
แต่ในขณะนี้ เราจำเป็นต้องปิดการใช้งาน เครื่อง ปริวรรตมวลสาร ไปอย่างไม่มีกำหนด และเราหวังว่า ประชาชนทุกคนคงเข้าใจ เพราะ นี่คือมาตรการป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้า ในการสอบสวน เราจะทำการแจ้งให่ทราบ เป็นระยะๆ นะครับ … ขอบคุณครับ”
ทุกคนเดินกลับเข้าอาคารอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจเสียงร้องถามที่ตามมาด้านหลัง

วิทยา แทรกตัวผ่านฝูงชนเข้าสู่ตัวอาคารอย่างลำบากยากเย็น
ถึงตอนนี้ แม้แต่ตำรวจในสถานีเดียวกัน ยังไม่ยอมเชื่อกันง่าย การแสดงบัตร เปรียบเทียบม่านตา และ ดีเอ็นเอ ถูกนำมาใช้ทดสอบหลายต่อหลายครั้ง
ถ้าเทียบกับการทดสอบ ดีเอ็นเอ เมื่อสมัยก่อน ตอนนี้ ร่างของวิทยา คงพรุนเป็นเม่นไปแล้ว

“ท่านผู้ว่า ครับ” วิทยา ร้องเรียก ขณะที่ท่าผู้ว่า กำลังยืนคุยอยู่กับ ชายรูปร่างสูงใหญ่ คนนั้น รวมทั้ง ดร.วิชาเยนร์ และ มีหญิงสาว คนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ
ผู้ว่าหันควับ ก่อนร้องด่าเสียงแหบแห้ง(แต่ยังคงดังอยู่) “มาพอดี … แย่จริงๆ วิทยา … คุณมาไม่ทันแถลงการณ์ คุณมีหน้าที่ รายงานความคืบหน้า ของการสอบสวน แล้วดูสิ ผล เป็นอย่างไร”
“ไม่เป็นหรอกครับ ท่านผู้ว่า” ชายรูปร่างสูงใหญ่ พูดขัดขึ้น “เวลาพึ่งจะผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง การรวบรวม หลักฐาน และ วัตถุ พยาน จำเป็นต้องใช้เวลานะครับ นี่ยังไม่รวมการรตรวจสอบ log file และการตรวจสอบ script ของโปรแกรม อีกนับ พันๆ บรรทัด
ผมว่า คราวนี้ คงต้องให้เวลา เขามากหน่อยนะครับ”
วิทยา พยักหน้าถี่ยิบ
“ฮึ่ย!” ท่านว่า ออกเสียง อย่างไม่พอใจ “นี่ คุณ เมธา จากกรมสอบสวนแห่งความมั่นคงระหว่างประเทศ … เขาจะมาช่วยเราในเรื่องนี้” ท่านผู้ว่า แนะนำ
เมธา ยื่นมือ ให้ วิทยา
วิทยา รีบคว้ามือราวกับคนจะจมน้ำ
เมธา เขย่ามือเบาๆ
“คงเป็นลักษณะให้ข้อมูลมากกว่า ครับ … ยังไม่พบ หลักฐานใดๆ ที่จะเชื่อมโยงไปสู่ผลกระทบในระดับความั่นคง ทางนี้ คงต้องเป็นหัวเรือใหญ่ ต่อไป … นะครับ”
วิทยา ยังคงเขย่ามือ ไม่ยอมปล่อย
“หากสุดท้าย พิสูจน์ว่าเป็นอุบัติเหตุ ผมก็เสียเวลาเปล่า”
“พูดอย่างนั้นก็ด่วนสรุปเกินไป กระมังคะ” ดร.วิชาเยนร์ กล่าว
ถึงแม้ จะเป็นหญิงสาวอายุเกือบ สองร้อยปี แล้ว แต่ก็ยังคงเห็นแววความงามได้อย่างไม่ยากเย็น
“เครื่อง ปริวรรตมวลสาร ถูกใช้งานมานาน ร่วมร้อยปีแล้ว ยังไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ที่จะสื่อไปในทิศทางนั้น” หญิงสาว คนข้างๆ กล่าวเสริม หล่อนน่าจะมีอายุ ไม่เกิน สามสิบปี แต่การดูภายนอกจะบอกอะไรได้้
กระบวนการ ยีนต์ บำบัด ถูกพัฒนาจนเกือบจะการเป็น ยาอายุวัฒนะ อยู่แล้ว ปัจจุบันอายุ เฉลี่ยของคนคือ สามร้อยปี
“เสียมารยาทจริงๆที่ไม่ได้แนะนำ … นี่เลขาณุการของ ดิฉัน มิส มายา กฤษณราตรี”
หล่อนโค้งคำนับเล็กน้อย อย่างงดงาม

ใส่ความเห็น