๕ : ยังไม่พบ
ศาสตราจารย์ ดร. เศรษฐ์ เดินไปมาภายในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่สองชั้นที่ปลูกอยู่ชานเมืองหลวง ด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ ภายในห้องห่างออกไปราวสามเมตรบนโซฟาชุดรับแขกมีร่างของหญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ นอนรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากสาวรับใช้อยู่ หล่อนระดมมาทั้งยาลม ยาหอม ยาดม รวมถึงการนวดเฟ้นบนร่างที่ไร้สติอยู่ตลอดเวลา
“กริ๊งงง…” เสียงครางของโทรศัพท์ดังขึ้นประดุจดั่งเสียงชี้เป็นชี้ตายในความคิดของเขา ดร.เศรษฐ์รีบสาวเท้าก้าวไปยังต้นเสียงในทันที
“เป็นไงบ้าง! พบลูกชายของผมหรือยัง?” เขาถามออกไปในทันทีที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา
“เอ่อ…เรายังไม่พบคุณภากรครับ ตอนนี้น้ำเชี่ยวมากอีกทั้งมีน้ำป่าไหลบ่าลงมาจากภูเขา ทำให้ทางเราต้องหยุดภารกิจในการค้นหาเอาไว้ชั่วคราวก่อนครับ” เสียงต้นสายรายงานความคืบหน้าให้ทราบ ดร.เศรษฐ์กัดกรามแน่นจนนูนเป็นสัน ใบหน้าดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เขาหันมองไปยังร่างของภรรยาที่ยังคงไม่ได้สติจากการช็อกที่ได้รับข่าวร้ายราวสิบห้านาทีที่ผ่านมาว่า ‘ภากรและเพื่อนไปล่องแก่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังระดมคนออกค้นหาอยู่’
“ท่านครับ! ท่านอยู่ในสายหรือเปล่าครับ?” เสียงของต้นสายจากเจ้าหน้าที่ดังขึ้นเมื่อเห็นดร.เศรษฐ์เงียบไป มันเป็นเสียงที่ช่วยฉุดดึงสติของเขาให้กลับคืนมาอีกครั้ง
“อืม…แล้วเพื่อน ๆ ของลูกชายผมหละ เป็นไงบ้าง?” ดร.เศรษฐ์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่กังวลและเป็นห่วง
“ตอนนี้เราพบทั้งสี่คนแล้วครับ แต่ยังมีอาการช็อกและตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเราได้ประสานส่งตัวไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดแล้วครับ” เขาหยุดพักเว้นระยะ ในขณะที่บุคคลปลายสายมีสีหน้าคลายกังวลไปเปราะหนึ่ง
“แต่ท่านไม่ต้องกังวลนะครับ ผมคิดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาและไม่มีน้ำป่าไหลบ่าลงมาอีก ก็คงไม่เกิน ๒ – ๓ ชั่วโมงข้างหน้า ทางเราน่าจะเริ่มต้นปฏิบัติการค้นหาได้อีกครั้งครับ”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก ผมฝากทางเจ้าหน้าที่ของคุณด้วยแล้วกัน” ดร.เศรษฐ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เข้าใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง อันเป็นนิสัยส่วนตัวที่เยือกเย็นและมีเหตุผลของท่าน ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันหรือเลวร้ายสักปานใด
“ด้วยความยินดีครับ ถ้าหากว่ามีอะไรที่คืบหน้าผมจะรีบแจ้งให้ทราบโดยทันทีครับ!”