“มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เรื่องเอาความจำไปใส่ในสมองคนอื่น มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ คุณมาหาผิดที่แล้วละ จะรับเครื่องดื่มสักแก้วไหมครับ ผมเลี้ยง”
บาร์เทนเดอร์ที่ดูเหมือนผู้จัดการหรือไม่ก็เจ้าของบาร์พูดขึ้นกลางสายควันจากใบยาสูบคละคลุ้งเต็มห้องที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ และอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกฎหมายยาเสพติดอีกสองสามข้อ แต่ดูเหมือนทั้งบาร์เทนเดอร์และชายที่นั่งตรงข้ามจะไม่สนใจนัก
บาร์เล็ก ๆ กลางตรอกที่เชื่อมระหว่างถนนสองเส้นย่านคนกลางคืน หากไมใช่คนที่ตั้งใจเดินเข้ามาอย่างชายผู้นี้ก็จะเป็นพวกที่ใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างแหล่งบันเทิงสองแห่ง ไม่ก็เป็นที่ซุกหัวนอนของคนจรจัดหรือขาประจำที่ไม่รู้จะไปสิ้นสุดคืนอันทรงคุณค่าที่ไหน…
บาร์เทนเดอร์เลิกคิ้วเหมือนกับจะถามซ้ำ ชายหนุ่มส่ายศีรษะตอบ
“แต่ผมไ้ด้ยินมาว่าที่นี่ทำได้ เท่าไหร่ผมก็ยอมจ่าย” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงความเจ็บปวดตอกย้ำความต้องการอย่างยิ่งยวดของเขา
บาร์เทนเดอร์เหลือบมอง เขาดูไม่ต่างจากผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาที่นี่ เสื้อเชิร์ฺตแขนยาวพับขึ้นมาสองสามทบ เนคไทรูดลงเล็กน้อย ปลดกระดุมสองเม็ด นัยน์ตาแดงก่ำ ผมยุ่งเหยิง เหมือนถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันแล้วแต่งรายละเอียดเพิ่มให้ต่างกันเล็กน้อย
“คุณได้ยินมาผิดแล้ว” บาร์เทนเดอร์ที่หยิบแก้วขึ้นมาเช็ด ทำท่าทางเหมือนตัวประกอบในหนังฮอลีวูดที่บอกเป็นนัยว่าการสนทนาจบแล้ว จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองข้ามไหล่ชายคนนั้นแล้วยิ้มทักทายนักดนตรีที่เดินเข้ามาจากทางหน้าร้าน
“ผมได้ยินมาว่าที่นี่ไม่ปฏิเสธลูกค้า” แววตาชายหนุ่มแข็งกร้าวขึ้นวูบหนึ่ง สีหน้าขึงขังจริงจัง
บาร์เทนเดอร์จ้องหน้าชายหนุ่มนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยพอให้สังเกตได้ “บอกมาว่าคุณต้องการอะไร” เขาก้มลงพูดเบาจนเหมือนเสียงกระซิบ “เอาไว้ค่อยยืนยันหลังจากคุยกันเสร็จก็ได้”
………. อ่านเพิ่มเติม “ความทรงจำเจ็บปวด”