บทกวีไซ-ไฟ : มิติแห่งกาลเวลา โดย ดาราจักร

                                            มิติแห่งกาลเวลา

                                            โดย  ดาราจักร

                            ลำนาวาแห่งกาลผ่านมิติ             ด้วยอิทธิกลับหายกลายเป็นแสง
                     อันตรธานวับไปคล้ายจำแลง                 สู่หนแห่งลับลิบในพริบตา
                     เหล่ามนุษยชาติผู้ไม่แพ้                     ไม่ยอมแม้อุปสรรคที่ขวางหน้า
                     ไม่ยอมแพ้แม้แต่กาลเวลา                    แม้สิ่งเหนือจินตนายังฝ่าไป
                            หวังจะกลับห้วงเวลาแห่งอดีต          คิดแก้ไขสิ่งผิดแต่หนไหน
                     จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ให้อย่างใจ         เพื่อลูกหลานจักไม่ต้องรับกรรม
                     จะหยุดยั้งสงครามผลาญชีวิต                 เนรมิตสันติภาพพ้นขวากหนาม
                     หวังให้โลกสงบสุขทุกชั่วยาม                 จะช่วยดับไฟลามให้มอดลง
                            หวังรักษาธรรมชาติให้คืนกลับ         จะช่วยยับยั้งสติมิให้หลง
                     จะรักษาป่าเขาลำเนาพง                    ให้ดำรงสืบรุ่นได้อุ่นใจ
                     สายน้ำใสไหลเย็นเป็นถิ่นเกิด                 ก่อกำเนิดสรรพชีวิตคิดบ้างไหม
                     หากย้อนกลับกาลเวลาที่ผ่านไป               จะรักษาสายน้ำให้ไม่เปลี่ยนแปลง
                            หวังมุ่งสู่กาลเวลาอนาคต             ทะลุกฎมิติกาลผ่านคลื่นแสง
                     วันเวลาข้างหน้ามาสำแดง                   ให้รู้แจ้งทั้งสามกาลที่ผ่านไป
                     เป็นห่วงลูกหลานเหลนอยากเห็นหน้า           ทั้งปู่ย่าตามดูอยู่แห่งไหน
                     จะลำบากยากเข็ญลำเค็ญใจ                  หรืออย่างไรได้เห็นด้วยตาตน
                            หวังช่วยเตือนลูกหลานในวันหน้า       อันอดีตมีค่าอย่าสับสน
                     ประวัติศาสตร์คือวิชาเรียนรู้ตน               ให้รอดพ้นจากหายนะภัยได้ทันกาล
                     บรรพบุรุษผิดถูกลูกจงรู้                     ไว้เป็นครูเตือนใจให้เหลนหลาน
                     มิให้หลงกลชั่วตัวซาตาน                     ที่จองผลาญชีวันให้บรรลัย
                            อนิจจากาลเวลาไม่หวนกลับ           อดีตลับไม่อาจเปลี่ยนเวียนมาใหม่
                     อนาคตไม่ปรากฏในทันใด                   คงเหลือไว้เพียงวันนี้ที่แน่นอน
                     ปัจจุบันกาลเวลามีค่านัก                     หากรู้จักเรียนรู้ปู่ย่าสอน
                     มีสติเหนี่ยวนำเหมือนคำกลอน                อนาคตย่อมสะท้อนแต่สิ่งดี

                                                                                                                                 

                                                                          

                

ใส่ความเห็น